สาวเดนมาร์กแจ้งจับหนุ่มไทยลวงข่มขืน

ตำรวจสมุยรวบหนุ่มอำนาจเจริญ พนักงานร้านอาหารลวงแหม่มสาวชาวเดนมาร์ก วัย 22 ปี เข้าโรงแรม หลังตีสนิทในสถานบันเทิง ผู้เสียหายยันถูกข่มขืน ขณะเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างแค่พยายามแต่ไม่สำเร็จ ด้านตำรวจยันส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว

เรื่องราวเสื่อมเสียการท่องเที่ยวของไทย เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ น.ส.เฮเรนเน่ อายุ 22 ปี นักท่องเที่ยวสัญชาติเดนมาร์ก เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.ฉัตรเฉลิม วันธงชัย ร้อยเวร สภ.อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีว่า ถูกหนุ่มไทยลวงไปข่มขืนในโรงแรม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 มีนาคม พ.ต.อ.ชัยยุทธ นิลวงศ์ ผกก.สภ.อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับ พ.ต.อ.วีระพันธ์ ทันใจ ผกก.ส.ทท.7 กก.5 บก.ทท. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายวัชรินทร์ สาระภี อายุ 23 ปี ชาว จ.อำนาจเจริญ พนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในเกาะสมุย ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน

ทั้งนี้ น.ส.เฮเรนเน่ ผู้เสียหายแจ้งว่า ได้เข้าไปเที่ยวที่ผับแห่งหนึ่งในหาดเฉวงและได้รู้จักกับนายวัชรินทร์ ผู้ต้องหา ที่เข้ามาตีสนิท พูดคุยกันจนถูกคอและได้ดื่มกินกันจนกระทั่งดึก เมื่อออกจากร้าน นายวัชรินทร์ได้พาขึ้นรถแท็กซี่ไปเที่ยวต่อที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และได้พาเข้าห้องพักใช้กำลังบังคับปลุกปล้ำข่มขืน ก่อนปล่อยตัวกลับ

ต่อมาตำรวจได้สืบทราบจนพบตัวผู้ต้องหา และจับกุมได้ในร้านอาหารที่ทำงานพามาสอบปากคำ เบื้องต้นยังให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าคืนเกิดเหตุได้ดื่มกินกับผู้เสียหายและพาไปที่ห้องพักในโรงแรม โดยได้ใช้กำลังบังคับปลุกปล้ำเพื่อจะข่มขืนจริง แต่ น.ส.เฮเรนเน่ ขัดขืนต่อสู้ จึงหยุดลวนลามและกลับออกจากห้องพักไป โดยยังไม่ได้ลงมือข่มขืนแต่อย่างใด

พ.ต.อ.วีระพันธ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ว่าผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ได้ก่อเหตุโดยการปลุกปล้ำและใช้กำลังบังคับ โดยมีความประสงค์เพื่อต้องการข่มขืนจริง จึงต้องแจ้งข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะหากไม่ดำเนินคดีย่อมทำให้เสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเกาะสมุยและภาพลักษณ์ของประเทศไทยเป็นอย่างมาก

ขณะที่ ร.ต.ท.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่า ได้รับแจ้งความเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยผู้เสียหายมีอาการมึนเมาในระดับหนึ่ง แจ้งว่า ถูกผู้ชายไทยข่มขืน หลังรับแจ้งและสอบสวนได้พยายามติดตามจับตัวคนร้าย กระทั่งทราบว่า ผู้เสียหายได้เข้าขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง กระทั่งรวบตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ แต่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืน เพียงแต่ใช้กำลังปลุกปล้ำเท่านั้น ซึ่งต้องรอผลตรวจร่างกายของผู้เสียหายจากโรงพยาบาลเกาะสมุย เพื่อนำมาประกอบสำนวนในคดีนี้ต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ชัยยุทธ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวติดตามหาเบาะแสผู้ก่อเหตุ กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ในส่วนที่ยังคงให้การภาคเสธนั้น ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และทำสำนวนไปตามพยานหลักฐาน ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้