ดักฉุดสาวบังคับอมนกเขา ขณะขี่จยย.ไปกรีดยางตอนเช้ามือ

สาวสงขลาวัย 30 ปี ขี่ จยย.ออกไปกรีดยางตอนเช้ามืด ถูกสองโจรโรคจิตขี่ จยย.ตามประกบ ก่อนฉุดขึ้นรถไปที่เปลี่ยว จับมัดมือ-เท้า ก่อนบังคับให้สำเร็จความใคร่ด้วยปาก ตร.เชื่อเป็นคนรู้จัก คุ้นเคย ก่อเหตุให้เกิดความเสื่อมเสีย อับอาย

ร.ต.ต.อดิศักดิ์ แกสมาน พนักงานสอบสวน สภ.อ.จะนะ จ.สงขลา ไปสอบสวนคดีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายและถูกกระทำอนาจารที่ รพ.จะนะ เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 5 มีนาคม พบนางน้อย (นามสมมติ) วัย 30 ปี ชาว ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา อยู่ในอาการตื่นตระหนก จากการตรวจสอบภายนอกพบร่องรอยเขียวช้ำที่ข้อมือและข้อเท้าทั้งสองข้าง สอบสวนได้ความว่าเกิดจากคนร้ายจับมัดมือมัดเท้า

นางน้อย ให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ขณะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักไปกรีดยางที่สวนยางพาราในพื้นที่หมู่ 6 ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ ระหว่างทางถูกสองคนร้ายสวมหมวกไหมพรมปิดหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น สี และหมายเลขทะเบียน ตามมาด้านหลัง ตอนแรกไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเป็นชาวบ้านที่ออกมากรีกยางเหมือนกัน เมื่อมาถึงที่เปลี่ยวสองคนร้ายจึงขี่รถประกบ ก่อนจะปาดหน้าให้หยุดรถ

นางน้อย ให้การต่อว่า หลังจากนั้นคนร้ายทั้งสองคนเดินลงจากรถจักรยานยนต์ พร้อมกับบังคับให้ตนไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ขี่ออกจากจุดเกิดเหตุไป โดยระหว่างทางคนร้ายทั้งสองพยายามพูดจาข่มขู่อยู่ตลอดเวลา และห้ามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ หากไม่เชื่อจะฆ่าให้ตาย ตนจึงยอมทำตาม กระทั่งมาถึงที่เปลี่ยวปลอดผู้คนสัญจรไปมา คนร้ายจึงหยุดรถ และมัดมือมัดเท้าตนพร้อมกับบังคับให้สำเร็จความใคร่ด้วยปากให้แก่คนร้ายทั้งสองคน กระทั่งสำเร็จความใคร่คนร้ายจึงวิ่งกลับไปที่รถจักรยานยนต์แล้วขี่หลบหนีไป ก่อนไปกำชับว่าห้ามนำเรื่องนี้ไปบอกใครทั้งสิ้น

"หลังจากคนร้ายหลบหนีไปแล้ว ฉันจึงพยายามดิ้นจนเชือกหลุด เดินไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ระหว่างนั้นมีชาวบ้านขับรถผ่านมาพบเข้า จึงช่วยนำตัวส่ง รพ.จะนะ" นางน้อย ให้การกับพนักงานสอบสวน

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้เสียหายเป็นอย่างดี เนื่องจากรู้เวลาที่ผู้เสียหายออกจากบ้านไปกรีดยางตอนเช้ามืด จึงวางแผนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น จากนี้ไปพนักงานสอบสวนจะเชิญผู้เสียหายมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องความขัดแย้งและบาดหมางใจกับใครมาบ้างหรือไม่ เนื่องจากเมื่อดูจากพฤติกรรมก่อเหตุแล้ว คาดว่าน่าจะเป็นคู่อริที่ไม่พอใจผู้เสียหาย จึงวางแผนก่อเหตุเพื่อให้เกิดความอับอาย