ช็อกลูก5ขวบหายคนเลี้ยงเห็นอุ้มขึ้นรถตู้พี่เลี้ยงโผล่ส่งคืน

เจ้าของร้านเสริมสวยปากน้ำ ตกใจสุดขีด ฝากลูกสาววัย 5 ขวบไว้กับเพื่อนบ้าน แต่ถูกคนร้ายอุ้มขึ้นรถตู้สายสำโรง-หัวลำโพง หายไร้ร่องรอย ตร.สันนิษฐานฝีมือแก๊งลักเด็ก "ส่งออก-บังคับขอทาน"

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 4 มีนาคม นางเพ็ชร เย็นสุข อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 หมู่ 9 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.ณภัทร นิ่มวงษ์ สารวัตรเวร สภ.ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ว่า ในช่วงค่ำวันที่ 3 มีนาคม ด.ญ.จูนซาววิน เย็นสุข หรือน้องจูน บุตรสาววัย 5 ขวบ ได้ถูกคนร้าย 2 คน อุ้มขึ้นรถตู้โดยสารสายสำโรง-หัวลำโพง ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง

นางเพ็ชร กล่าวว่า เป็นเจ้าของร้านเสริมสวย "จูนบิวตี้ ซาลอน" ตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง ทั้งนี้ก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไปนั้น เมื่อวันที่ 1-3 มีนาคม ที่ผ่านมา ไปทำธุระที่ต่างจังหวัดจึงนำ ด.ญ.จูนซาววิน ไปฝากให้นายกรุง นามกันยา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านช่วยเลี้ยง และทันทีที่กลับมาถึงบ้านพักเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 3 มีนาคม ก็รีบไปรับบุตรสาวที่บ้านนายกรุง แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าไม่พบ

ทั้งนี้ นายกรุงพยายามอธิบายว่า ได้นำ ด.ญ.จูนซาววิน ไปส่งให้ที่ร้านเสริมสวยของตนตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 3 มีนาคม โดยที่ไม่ทราบว่าร้านปิด จากนั้นตน นายกรุง และเพื่อนบ้าน จึงรีบไปที่ห้างดังกล่าวเพื่อตามหาบุตรสาว พบเพียงเสื้อผ้าที่บุตรสาวใส่ก่อนที่จะนำไปฝากนายกรุงเลี้ยง กองอยู่ที่หน้าร้าน จึงขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช่วยตามหาตั้งแต่บริเวณชั้นล่างไปจนถึงชั้น 7 แต่ก็ไม่พบ

"ระหว่างที่ฉันกำลังตามหาลูกอยู่นั้น คนจัดคิวรถตู้โดยสารเล่าให้ฟังว่า พบชายหญิงคู่หนึ่งอายุประมาณ 30 ปีเศษ นำลูกสาวตนขึ้นรถตู้รับจ้างสายสำโรง-หัวลำโพง ไปตั้งแต่สองทุ่ม ฉันจึงขับรถออกไปตามหาลูกสาวที่บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพงแต่ก็ไม่พบ ทำให้เชื่อว่าลูกคงถูกคนร้ายลักพาตัวไปแล้ว จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ต.สำโรงเหนือ" นางเพ็ชร กล่าว

นางเพ็ชร กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บุตรสาวเคยถูกคนร้าย 2 คน ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานใกล้เคียงกันนี้ จูงมือเพื่อจะไปขึ้นรถครั้งหนึ่งแล้ว แต่เพื่อนของตนมาพบเสียก่อน โดยคนร้ายอ้างว่า ตนให้มารับลูกสาวแทน แต่เพื่อนไม่เชื่อ เพราะเพิ่งแยกกับตนไม่ถึง 5 นาที จึงได้ทำทีชวนคนร้ายไปพบตำรวจ คนร้ายทั้งสองเห็นท่าไม่ดี จึงได้ปล่อยลูกสาวแล้ววิ่งหลบหนีไป

ด้าน นายกรุง กล่าวว่า มีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ที่วินหน้าห้างดังกล่าว ปกตินางเพ็ชรจะให้ไปรับน้องจูนที่โรงเรียน แล้วนำมาส่งที่บริเวณหน้าบันไดทางลงชั้นใต้ดินห้างดังกล่าวทุกวัน โดยที่น้องจูนจะเป็นคนเดินลงไปหามารดาที่ร้านเสริมสวยด้วยตนเอง สำหรับวันที่น้องจูนหายตัวไปนั้น ตนไม่ทราบว่า นางเพ็ชรไม่ได้เปิดร้าน เมื่อเห็นน้องจูนร้องหาแม่ ก็ขี่รถพาไปส่งที่บันไดทางลงชั้นใต้ดินเหมือนกับทุกครั้ง พร้อมกำชับว่า ถ้าไม่พบแม่ให้เดินกลับมาหาตนที่วิน

"ผมจอดรถรอน้องจูนอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง ก็ไม่เห็นน้องจูนวิ่งกลับมาหา คิดว่าคงจะพบแม่แล้ว จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปเข้าวินที่หน้าห้าง จนกระทั่งมืดค่ำจึงกลับเข้าบ้าน จากนั้นนางเพ็ชรก็มาตามหาน้องจูน ตนจึงได้ทราบว่าเด็กถูกคนลักพาตัวไปแล้ว" นายกรุง กล่าว

เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ชายหญิงคู่ดังกล่าวน่าจะเป็นพวกแก๊งลักพาตัวเด็ก เพื่อส่งไปขายยังต่างประเทศ หรือเอาไปบังคับให้นั่งขอทาน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายทั้งสอง และช่วยเหลือเด็กหญิงคนดังกล่าวให้ได้โดยไว้

ล่าสุด เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 4 มีนาคม พ.ต.ต.ณภัทร นิ่มวงษ์ กล่าวว่า นางเพ็ชร ได้มาขอถอนแจ้งความเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากได้พบกับบุตรสาว ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือเป็นความเข้าใจผิด

ส่วนนางเพ็ชร กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ นางสมจิต อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นอดีตพี่เลี้ยงน้องจูน ผ่านมาพบบุตรสาวของตนกำลังยืนร้องไห้อยู่หน้าร้าน ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าน้องจูนจะเป็นอันตราย จึงนำตัวกลับไปดูแลที่บ้าน อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่นางสมจิตนำบุตรสาวไปดูแล ได้พยายามติดต่อกับตน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้