ใบเสร็จการโกงชาติ

โดย ผู้จัดการรายวัน





คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ที่ให้เพิกถอนการกระจายหุ้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เมื่อวานนี้ ให้ภาพอันชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ระบอบทักษิณนั้นโกงชาติ โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ส่งคนของตัวเองเข้าไปหาผลประโยชน์ในทุกๆที่ เป็นระบบที่ฉ้อฉล เต็มไปด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน

สาระสำคัญในคำพิพากษา ของศาลปกครองคือ การออกพระราชกฤษฎีกา กำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัทการไฟฟ้าฝ่ายผลิต จำกัด (มหาชน) พ.ศ, 2548 และ พระราชกฤษฎีกา กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นกฎหมายแปรรูป กฟผ. และเอา กฟผ. เข้าตลาดหุ้น โดย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะรัฐมนตรี เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายประการ

เอานายโอฬาร ไชยประวัติ ซึ่งเป็นกรรมการชินคอร์ป ที่ทำธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม เข้ามาเป็นกรรมการเตรียมการแปรรูป กฟผ. ซึ่งเป็นเรื่องผลประโยน์ทับซ้อน เพราะกฟผ.ไม่ใช่มีแต่โรงไฟฟ้าและสายไฟฟ้าเท่านั้น แต่มีทรัพย์สินสำคัญคือ เครือข่ายสายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง ที่ ใครได้ไป ก็จะได้เป็นเจ้าธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม

เหมือนศาลปกครองจะหยั่งรู้ว่า เป้าหมายแท้จริงของ การแปรรูป กฟผ.คืออะไร

เอานายปริญญา นุตาลัย ซึ่งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาเป็นประธานกรรมการจัดทำประชาพิจารณ์ และการทำประชาพิจารณ์นั้น ก็ไม่ได้เป็นไปโดยถูกต้อง

ทรัพย์สินของ กฟผ. เช่น โรงไฟฟ้า เขื่อน สายส่ง เป็นสาธารณสมบัติขอองแผ่นดิน มิอาจโอนไปเป็นของ บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) แต่ พ.ร.ฎ. กำหนดอำนาจสิทธิและประโยชน์ของ บริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) ยินยอมให้มีการถ่ายโอนสมบัติของชาติให้กับกฟผ. ซึ่งจะเป็นกิจการเอกชนหลังการแปรรูปแล้วได้

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพวกอ้างตลอดเวลาว่า การแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้นเป็นไปเพื่อ ประสิทธิภาพการทำงาน ลดภาระของรัฐบาล ไม่ใช่การเอาสมบัติของชาติไปขาย

แต่คำพิพากษาของศาลปกครอง มองในมุมกลับ โดยใช้การแปรรูป กฟผ. เป็นตัวอย่าง การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ มีเจตนานำสมบัติของแผ่นดินไปเป็นของตัวเองและพวกพ้อง โดยเขียนกฎหมาย ส่งคนของตัวเองเข้ามากำกับควบคุมการแปรรูป

การแปรรุป ปตท. ก็เป็นไปในลักษณะนี้เช่นกัน ตลอดจนนโยบายอื่นๆเช่น การเปิดเอฟทีเอ. การตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ การยุบ รสพ. การให้เอกชนเข้ามาบริหารงานบริษัทไทยเดินเรือทะเล ฯลฯ ล้วนมีวาระซ่อนเร้นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว โดยอ้างส่วนรวมบังหน้า ผู้ทีต่อต้านก้ถูกป้ายสีว่า เสียผลประโยชน์บ้าง ไม่เข้าใจโลกาภิวัฒน์บ้าง

นับเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนแล้ว ที่ประชาชนรับรู้ เข้าใจ และเท่าทันพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การชุมนุมขับไล่ในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเครือข่ายทั่วประเทศ คนไทยทุกสาขาอาชีพ ทุกวัยออกมาเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณและพวกกลับถามหาหลักฐาน การฉ้อโกง อ้างกฎหมาย กติกา รัฐธรรมนูญ เป็นเกราะกำบังความชั่วร้าย

คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด คือ หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษร จากองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่ฉีกหน้ากาก เปลือยธาตุแท้ของระบอบทักษิณว่าเป็นเช่นไร คือ ใบเสร็จการโกงชาติขอ´ทักษิณ ชินวัตร

ขอสดุดี การทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติของศาลปกครอง หากองค์กรอิสระอื่นๆ ดำรงตนได้เยี่ยงนี้ ประชาชนคงไม่ต้องออกมาชุมนุมตามท้องถนนอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้