เมื่อเวลา 03.30 น. วันนี้ (23 มี.ค.) พล.ร.ต.รังสรรค์ โตอรุณ ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครนพม (นรข.)
ร่วมกับ นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รอง ผวจ.บึงกาฬ น.อ.ดุสิต จันทร์ราช ผบ. นรข.เขตหนองคาย ร.อ.คำพันธ์ พวงไธสง หน.สน.เรือบึงกาฬ พ.ต.อ.ชาญเดช ศรีสังฃ์ ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.ท.สุชาติ บุปปาจันโท ผบ.ร้อย ตชด.244 บึงกาฬ พ.ต.อ.ศรายุธ ชื่นพิชัย ผกก.สภ.หอคำ พ.ต.ท.อัศรายุทธ ทองลอง สว.ตำรวจน้ำบึงกาฬ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันวางแผนจับกุมขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติ หลังสืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำสุนัขออกไปขายยังต่างประเทศ ที่บริเวณริมโขงบ้านโนนยาง ต.หอคำ อ.เมือง จ.บึงกาฬ
หลังเจ้าหน้าที่วางกำลังซุ่มสังเกตการณ์ ก็พบเรือเพลายาวติดเครื่องยนต์ จำนวน 2 ลำ แล่นจากฝั่ง สปป.ลาว ข้ามน้ำโขงมายังฝั่งไทย
จากนั้นได้มีรถปิกอัพ 3 คัน วิ่งเข้ามาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขง ประกอบด้วย รถปิกอัพโตโยต้า ไทเกอร์ สีขาว ทะเบียน บพ 4683 สกลนคร รถปิกอัพโตโยต้า สีเทา ทะเบียน บต 1826 มหาสารคาม และรถปิกอัพโตโยต้า ไมตี้เอ๊กซ์ สีเขียว ทะเบียน บท 3023 มหาสารคาม โดยรถทั้ง 3 คัน มีสุนัขขังอยู่ในกรงจำนวนมาก และมีสแลนดำคลุมพรางเอาไว้ ต่อมาได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 8-10 คน เดินขึ้นจากเรือมายกกรงสุนัขลงเรือที่จอดรออยู่ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม ได้ผู้ต้องหาได้ 2 คนคือ นายอุทัย ภาสงค์ อายุ 39 ปี และ นายลาวี แสนสุริวงค์ อายุ 48 ปี ทั้งสองเป็นชาว อ.วังยาง จ.นครพนม ส่วนที่เหลือวิ่งหลบหนีลงเรือไปพร้อมสุนัขอยู่ในกรงจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงยึดกรงสุนัขที่เหลือได้ทั้งหมด 28 กรง รวมสุนัขทั้งหมด 280 ตัว
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสอง ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายชาวเวียดนาม
ให้ลำเลียงสุนัขของกลางจากพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย และ อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม มาส่งกับกลุ่มพ่อค้าสุนัขบริเวณริมน้ำโขง โดยได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 7.500 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันนำสินค้า(สุนัข)ออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร และทำการอันเป็นการทารุณต่อสัตว์ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หอคำ ดำเนินคดีต่อไป ด้าน นายเลอเกียรติ รอง ผวจ.บึงกาฬ กล่าวว่า สุนัขที่ถูกจับมาในครั้งนี้ สังเกตได้ว่ามีลักษณะตัวเล็กกว่าทุกครั้ง เป็นไปได้ว่าสุนัขเริ่มจะหายากมากขึ้น ซึ่งสุนัขตัวเล็กกว่าจะขนย้ายสะดวกมากกว่า และไปเลี้ยงหรือขุนต่อเพื่อขายในราคาที่สูงขึ้น สำหรับสุนัขชุดนี้ดูยังสดชื่นสุขภาพดี จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลเข้มงวดรถขนสุนัขด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือสัตว์ร่วมโลก.