3โจรปล้นแฟมมิลี่มาร์ทกวาดเงินไป2.5หมื่นกับมือถือ2เครื่อง
เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 18 มี.ค. ร.ต.ท.ญัตติพงศ์ งูทิพย์ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นทรัพย์ร้านแฟมมิลี่มาร์ท สาขาซอยอ่อนนุช 39 ถนนอ่อนนุช แขวงและเขตสวนหลวง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผกก.สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบพนักงานของร้านดังกล่าวยืนรอให้การอยู่ด้วยอาการตื่นตระหนก สอบสวนเบื้องต้นเจ้าตัวให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ ตนกำลังทำงานอยู่บริเวณด้านหลังร้าน โดยมีนายเอกพงษ์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 21 ปี เพื่อนพนักงานอีกคนอยู่ที่เคาเตอร์แคชเชียร์ จากนั้นก็มีคนร้ายเป็นชาย 3 คน ขับขี่รถจยย.แบบผู้หญิง สีขาว ไม่ทราบยี่ห้อกับรุ่น ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดที่หน้าประตูร้าน จากนั้นคนร้ายสองคนก็เดินเข้ามาในร้าน โดยคนแรกจำได้ว่ารูปร่างผอม สูงประมาณ 170 ซม.สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ ดึงฮูทคลุมศีรษะเปิดแต่ใบหน้า นุ่งกางเกงยีนสีดำ ชักอาวุธปืนแบบออโตเมติกขึ้นมาจี้นายเอกพงษ์ พร้อมทั้งขู่ให้เปิดลิ้นชักเก็บเงินที่เคาเตอร์แคชเชียร์กับเซฟด้านล่าง ส่วนอีกคนรูปร่างผอมสูง ผิวขาว สูงเท่ากัน สวมเสื้อกแจ็คเก็ตสีขาวดึงฮูมคลุมศีรษะเปิดแต่ใบหน้าเช่นกัน นุ่งกางเกงยีนสีดำเหมือนกัน ชักมีดอีโต้สีดำขึ้นมาขู่คอยคุมเชิง
จากนั้นคนร้ายที่สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวก็เดินอ้อมเคาเตอร์แคชเชียร์เข้ามากวาดเงินในลิ้นชักแคชเชียร์ทั้ง 2 ลิ้นชัก และก็ก้มลงไปกวาดเงินสดในตู้เซฟออกไป รวมจำนวนประมาณ 25,000 บาท และโทรศัพท์มือถือแบล็กเบอร์รี่กับยี่ห้อโนเกียของพนักงานไปด้วย ส่วนคนร้ายที่สวมเสื้อสีขาวก็ปีนข้ามเคาเตอร์ออกมา ก่อนจะพากันรีบวิ่งออกจากร้านไปขึ้นรถจยย.ที่คนร้ายอีกคนจอดติดเครื่องรออยู่หน้าร้าน แล้วขี่หลบหนีไปทางท้ายซอยทันที ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าสาเหตุที่ถูกคนร้ายเข้ามาปล้นครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับที่เมื่อวันที่ 16 มี.ค. มีพนักงานหญิงรายหนึ่งถูกไล่ออกจากร้าน แล้วแฟนหนุ่มของพนักงานคนดังกล่าวเข้ามาทะเลาะกับทางร้านหรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายทั้งบริเวณหน้าเคาเตอร์และด้านหน้าประตูไปตรวจสอบ รวมทั้งต้องรอทางผู้จัดการร้านมาเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดในร้านอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการติดตามจับกุมคนร้ายทั้ง 3 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป