ตำรวจบุรีรัมย์เพิ่มข้อหา “ซ่องโจร” แก๊ง 13 โจ๋ยกพวกลุยโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล ไล่ล่าอีก 7 ที่ยังหนีรอด
ส่วนคนถูกจับเปิดปากสารภาพ รับจ้างจากเจ้าของอู่ซ่อมรถให้มาก่อเหตุได้คนละ 1 พัน เตรียมสรุปสำนวนก่อนขออนุมัติศาลออกหมายเรียกมาสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้านโรงเรียนยังเปิดสอนตามปกติ โดยมีตำรวจดูแลเข้มงวด ขณะ รปภ.ปืนดุยื่นขอประกันตัวแล้ว
ความคืบหน้ากรณีกลุ่มคนร้ายวัยโจ๋ 13 คน สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า มีอาวุธมีด ทั้งอีโต้และสปาต้าและสนับมือ
ใช้รถกระบะเป็นพาหนะบุกเข้าไปในโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองบุรีรัมย์ ก่อนจะวิ่งกรูกันเข้าไปทำร้ายผู้ที่อยู่ในโรงเรียน รวมทั้ง นายวัชรพล ทองศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล ขณะที่นักศึกษาและผู้ปกครองกำลังรอเข้ารับการปฐมนิเทศนักศึกษาอยู่ด้านหน้าโรงเรียน ก่อนเปิดทำการเรียนการสอนวันแรก อย่างอุกอาจ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย นักศึกษา รวมทั้งผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์ ต่างตกใจวิ่งหลบหนี จึงไม่ได้รับอันตราย ขณะเกิดเหตุ นายวัชรพล อยู่ภายในโรงเรียน กลุ่มชายฉกรรจ์ได้พยายามตามเข้าไปเพื่อทำร้าย จึงถูกนายขวัญฟ้า หรือ เจ๋ง ศรีน่ารัก พนักงานขับรถประจำโรงเรียน จึงได้ชักอาวุธปืนออกมายิงใส่กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าว เพื่อหวังจะข่มขู่ จนกลุ่มผู้ก่อเหตุได้พากันทิ้งอาวุธและวิ่งขึ้นรถหลบหนีไป โดยกลุ่มคนร้ายได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และต่อมาถูกตำรวจตามจับได้อีก 2 คน เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รองผู้การตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ให้ดูแลรับผิดชอบคดีนี้ ได้นำตัว นายโสภณ การะสิรัมย์ อายุ 32 ปี คนขับรถยนต์มิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว หมายเลขทะเบียน บพ 2314 บุรีรัมย์ ที่พาวัยรุ่นผู้ก่อเหตุที่ถูก รปภ.ของโรงเรียน ยิงสวนจนได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมตัวได้ที่หน้าโรงพยาบาล พร้อมเยาวชนอายุ 16 ปี ที่ร่วมก่อเหตุอีก 1 คน มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาตัวผู้บงการหรือจ้างวานทำร้าย ผอ.โรงเรียน แต่เบื้องต้นนายโสภณ ยังทำหัวหมอให้การปฏิเสธ
ส่วนวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ซัดทอดว่าได้รับการจ้างวานจากเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัด คนละ 1,000 บาท ให้มาก่อกวนและข่มขู่โรงเรียนดังกล่าว ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายเรียกเจ้าของอู่มาสอบปากคำ และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.วิรัตน์ ระบุว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้นมีผู้วัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุ 13 คน ในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่ รพ. 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย
และถูกควบคุมตัวที่โรงพัก 2 ราย ส่วนที่เหลืออีก 7 คนกำลังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่ามีการนัดหมายวางแผนที่อู่ซ่อมรถก่อนลงมือก่อเหตุ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ซ่องโจร” เพิ่มเติม เพราะมีการสมคบคิดกันเกินกว่า 5 คนเพื่อกระทำความผิด จากที่ก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกับบุกรุกเคหะสถานโดยมีอาวุธ” ส่วนผู้ก่อเหตุที่เป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี พนักงานสอบสวนจะได้นำตัวส่งสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนตามกระบวนการของกฎหมาย แต่หากคนใดให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีก็จะกันตัวไว้เป็นพยาน
ส่วนนายขวัญฟ้า ศรีน่ารัก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.)
ที่ใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มวัยรุ่นที่จะเข้ามาทำร้ายผู้อำนวยการฯ ที่ถูกแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครอง” นั้น ขณะนี้ได้ยื่นขอประกันตัวแล้ว สำหรับชนวนเหตุในการจ้างวานกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุอุกอาจในครั้งนี้ ตำรวจพุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งของหุ้นส่วนเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจสถานบริบาล
ทั้งนี้ จากการตั้งข้อสังเกตถึงวิธีการของผู้จ้างวาน ที่เลือกเยาวชนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุนั้น เพราะชักจูงง่าย และไม่ได้บอกเป้าหมายที่แท้จริง เพียงบอกให้ไปก่อกวน ข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัวเท่านั้น ขณะที่ โรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาล หลังเกิดเหตุการณ์อุกอาจขึ้น ยังเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทางกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ได้จัดกำลังผลัดเปลี่ยนมาคอยดูแลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำอีก