กระหึ่มโลกโซเชียล พ.ต.อ.ไล่เตะหมาพิการในสตช. ขณะที่เจ้าตัวอ้างไม่เคยทำ ด้านผบ.ตร. เตรียมเรียกมาอบรม ส่วนกลุ่มกล้วยไม้สีเงินวอนอย่าย้ายหมาออกจากสตช.
วันนี้ (12มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีการโพสต์ข้อความทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก
ระบุว่า มีนายตำรวจยศ พ.ต.อ. ระดับรองผู้บังคับการนายหนึ่งได้ก่อเหตุทำร้ายสุนัขพิการ โดยใช้เท้าเตะสุนัขตัวดังกล่าวขณะกำลังกินข้าวที่มีผู้ใจบุญนำมาวางไว้ให้บริเวณลานจอดรถใต้อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโลกอินเตอร์เน็ต ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของตำรวจนายนี้ ว่า ล่าสุด พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว เพียงสั้นๆ ว่า ตนทราบเรื่องแล้ว หลังจากนี้จะเรียกนายตำรวจคนดังกล่าวมาอบรม ถึงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเรื่องดังกล่าว
สำหรับเหตุการณ์ที่นายตำรวจนายนี้ ทำร้ายสุนัข เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่มีคนนำอาหารมาให้สุนัขเพศเมียสีดำ ขาหลังด้านขวาพิการ ชื่อ ดุ๊กดิ๊ก อาศัยอยู่บริเวณลานจอดรถใต้อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่จอดรถ ผบ.ตร. และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ปรากฎว่า นายตำรวจคนดังกล่าวเข้ามาเตะสุนัขขณะกำลังกินอาหารอยู่จนกระจาย และนายตำรวจคนดังกล่าวต่อว่าผู้นำอาหารมาให้สุนัขกินว่า ตรงนี้เป็นสถานที่ราชการ ไม่ให้เอาอาหารมาเลี้ยงหมาตรงนี้ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้น ท่ามกลางสายตาของตำรวจสันติบาล และคนที่นำอาหารมาให้สุนัข โดยที่ผ่านมาสุนัขตัวดังกล่าวไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร
ด้านน.ส.ธราพร บุญดีเจริญ หรือผู้ใช้ชื่อ “กล้วยไม้สีเงิน” ในเว็บไซต์พันทิป และเป็นตัวแทนกลุ่มคนรักสุนัข กล่าวว่า
ที่ผ่านมาตนเองพร้อมกลุ่มคนรักสุนัข และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดทำโครงการ ทำหมันและจัดระเบียบสังคมสุนัขจรจัดในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยได้เข้ามาดำเนินการสำรวจประชากรสุนัขจรจัด ทำหมัน ถ่ายพยาธิ รวมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งโครงการนี้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2554 ด้วยเงินที่กลุ่มคนรักสุนัขเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ สำหรับข้อมูลล่าสุดภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีสุนัขทั้งหมด 45 ตัว ทุกตัวได้รับการทำหมัน ฉีดวัคซีนแล้ว ขณะเดียวกันในทุกเดือน สัตวแพทย์ จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเข้ามาสำรวจประชากร รวมถึงดูแลสุขภาพของสุนัข ขณะที่กลุ่มคนรักสุนัขก็จะดูแลเรื่องอาหารเม็ด
น.ส.ธราพร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาได้มีกระแสข่าวว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีการเคลื่อนย้ายสุนัขจรจัดออกไป
ตนเองในฐานะกลุ่มคนรักสุนัขแม้จะเข้าใจว่าการมีสุนัขในสถานที่ราชการ อาจทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย แต่อยากวิงวอนให้มีการทบทวนแนวคิดดังกล่าว เพราะในหน่วยราชการทุกแห่งก็มีสุนัขจรจัดอาศัยอยู่ หากมีการเคลื่อนย้ายสุนัขจรจัดที่เข้าร่วมโครงการออกไป ก็จะมีสุนัขจากที่อื่นเข้ามาอาศัยแทนที่อยู่ดี เท่ากับสิ่งที่กลุ่มคนรักสุนัขทำมาทั้งหมด เป็นการสูญเปล่า ทั้งนี้ โครงการนี้ยังเป็นโมเดลต้นแบบสำหรับหน่วยราชการอื่นๆ อาทิ รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ทหาร จ.ลพบุรี ในการจัดการกับปัญหาสุนัขจรจัด
ขณะที่นายตำรวจยศ พ.ต.อ. ระดับรองผู้บังคับการ ที่ถูกกล่าวอ้างว่าทำร้ายสุนัข ได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง
ไม่เคยทำร้ายสุนัขตามที่ปรากฎตามข่าวแต่อย่างใด เหตุการณ์วันนั้นตนเองได้ไล่สุนัขให้พ้นทางเท่านั้น เมื่อผู้ที่ให้อาหารสุนัขอยู่ขณะนั้นเห็นก็โวยวายว่าให้อาหารอยู่มาไล่ได้อย่างไร ตนเองก็บอกว่าการให้อาหารสุนัขบนอาคารตรงตู้เอทีเอ็มหลังอาคาร 1 ไม่เหมาะสม ควรจะไปให้ที่อื่น จากนั้นเขาก็โวยวายต่อว่าตน ทำให้เกิดการโต้เถียงกัน
"ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายสุนัขอย่างแน่นอน ผมเป็นตำรวจมียศ รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ หากมีใครมาเขียนให้ผมเสียหายผมจะฟ้องดำเนินคดี และตอนนี้ผบ.ตร.ก็ยังไม่ได้เรียกเข้าพบแต่อย่างใด หากเรียกก็พร้อมที่จะเข้าชี้แจงต่อหน้าคนที่เอาอาหารไปให้ด้วย ให้มายืนยันพร้อมกันเลย ผมไม่ได้ทำอะไรผิด อย่ามากล่าวหาและก็ไม่เคยมีเรื่องกับคนที่ให้อาหารสุนัขมาก่อน" พ.ต.อ.รายนี้กล่าว.