จับฆาตกรวัย17ฆ่าข่มขืนสาวรุ่นพี่

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม จับฆาตกรวัย17ฆ่าข่มขืนสาวรุ่นพี่

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังพบศพ "วาสนา มูลชุลี" ถูกฆ่าเผาอำพรางศพในป่ามะม่วง ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุม "นายเอ" (นามสมมุติ)

อายุ 17 ปี เพื่อนคนงาน ซึ่งอ้างว่าเมาสุราแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้ มาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว!!

ราว 2 ทุ่มของวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี รับแจ้งพบศพหญิงสาวถูกฆาตกรรมบริเวณป่ามะม่วงปลูกสลับกับไม้ไผ่รวก หมู่ 10 ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี พ.ต.อ.อนินท์ ศรีสรรพางค์ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุพบศพหญิงสาวนอนหงายอยู่ในพุ่มไม้ สภาพศพศีรษะถูกตีด้วยของแข็งมีเลือดไหล เสื้อถูกถกเลยหน้าอกขึ้นมา ส่วนท่อนล่างเปลือย บริเวณอวัยวะเพศพบร่องรอยถูกล่วงละเมิด ข้างศีรษะพบรองเท้าของผู้เสียชีวิต โดยจุดเกิดเหตุพบร่องรอยการจุดไฟเผา แต่ไม่ได้ลุกลามไปยังผู้เสียชีวิต ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 100 เมตรพบกางเกงขาสั้นของผู้เสียชีวิตตกอยู่

เหตุการณ์สะเทือนขวัญชาวบ้านที่รับจ้างตัดอ้อยใน จ.ราชบุรี ในครั้งนี้ นายลำพาง มูลชุลี อายุ 52 ปี พ่อของเหยื่อเป็นผู้ออกติดตามหาลูกสาวและพบกลายเป็นศพ ให้การว่า ผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วาสนา มูลชุลี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 16 ต.หนองสังข์ อ.แก่งคร้อ จ.ชัยภูมิ เป็นบุตรสาวที่เดินทางมาจากภาคอีสานเพื่อมารับจ้างตัดอ้อย แต่บุตรสาวมีโรคประจำตัว จึงไม่ค่อยได้ออกไปรับจ้างตัดอ้อยส่วนใหญ่จะช่วยแม่ทำอาหารอยู่ในที่พัก

ก่อนบุตรสาวจะเสียชีวิต ราวบ่าย 2 โมง บุตรสาวบอกกับแม่และญาติว่าจะออกไปสอยไข่มดแดง เพื่อนำมาทำเป็นอาหาร หลังจากนั้นก็หายตัวไปไม่มีใครพบเห็น จึงชักชวนเพื่อนคนงานทั้งหมดออกติดตามหา ระหว่างนั้นพบว่าป่าไผ่กำลังถูกไฟลุกไหม้จึงช่วยกันดับ แล้วติดต่อให้รถดับเพลิงของเทศบาลเมืองราชบุรีมาช่วยเหลือจนกระทั่งไฟดับ จึงออกติดตามหาพบกางเกงขาสั้นของบุตรสาวตกอยู่ คิดว่าคงเกิดเรื่องไม่ดี จึงเร่งตามหาบริเวณใกล้เคียงจนกระทั่งพบศพดังกล่าว

การสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ ชุดสืบสวนสอบปากคำคนงานตัดอ้อยทั้งหมดแล้วได้ข้อมูลว่าในช่วงเช้าถึงเย็น คนงานทุกคนออกไปรับจ้างตัดอ้อยเว้นแต่ "นายเอ" (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.มหาสารคาม ซึ่งรับจ้างตัดอ้อยเหมือนกัน แต่ไม่

ชุดสืบสวนพยายามหาข้อมูลในละแวกที่พักของนายเอ จนกระทั่งพบประจักษ์พยานหลายปากให้การตรงกันว่า ช่วงบ่ายพบเห็น "นายเอ" เรียกหา น.ส.วาสนา เข้าใจว่า คงให้ช่วยไปซื้อของ ซึ่งปกติแล้ว "นายเอ" มักจ้างวานให้ไปซื้อของเป็นประจำ หลังจากที่รู้ว่าพบศพ น.ส.วาสนา ถูกฆาตกรรม ก็นึกได้ว่า หลังจากที่เหยื่อเดินออกไปไม่นานสังเกตเห็นนายเอมีท่าทีลุกลี้ลุกลนแล้วเดินติดตามไปห่างๆ

ข้อมูลทั้งหมด ชุดสืบสวนตั้งข้อสังเกตว่า "นายเอ" อาจจะมีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของเหยื่อ จึงออกติดตามจนกระทั่งพบ "นายเอ" นอนอยู่ในห้องพักคนงานจึงเชิญตัวมาสอบสวน ระหว่างถูกสอบสวนชุดสืบสวนสังเกตเห็นผู้ต้องสงสัยมีอาการกระสับกระส่ายอยู่ตลอดเวลา แต่เพียงไม่นาน นายเอก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมสาววัย 27 ปีรายนี้

"ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เพราะจำนนต่อหลักฐานเช่นเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดอยู่ในห้องพัก รวมถึงพยานหลักฐานอื่น จึงยอมรับว่าออกติดตามผู้เสียหายไป ระหว่างที่เห็นผู้เสียหายกำลังก้มแหย่ไข่มดแดง จึงเกิดอารมณ์ทางเพศตั้งแต่ช่วงดื่มสุรา จึงตัดสินใจใช้ท่อนไม้ทุบศีรษะจนล้มแล้วก่อเหตุล่วงละเมิดจนสำเร็จ จากนั้นใช้ท่อนไม้ตีผู้เสียหายหลายครั้งแล้วลากศพไปทิ้งในป่า" พ.ต.อ.อนินท์ กล่าว

ด้าน "นายเอ" รับสารภาพอ้างว่า สาเหตุที่จำเป็นต้องฆาตกรรมเพื่อนร่วมงานที่มีอายุมากกว่า เพราะหลังจากก่อเหตุเกรงว่า น.ส.วาสนาจะไปบอกพ่อแม่และญาติ รวมถึงเพื่อนคนงาน ซึ่งเป็นชาวอีสานด้วยกัน และเกรงว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย จึงตัดสินใจฆาตกรรม หลังก่อเหตุระหว่างทางที่เดินกลับห้องพักคนงานใช้ไฟแช็กจุดไฟเผาป่าบริเวณใกล้เคียงเพื่อต้องการให้ไฟไหม้ลุกลามไปยังจุดทิ้งศพเพื่ออำพรางคดี

คำรับสารภาพของ "นายเอ" ทั้งหมดถูกบันทึกในสำนวนการสอบสวนแล้วนำเสนอศาลจังหวัดราชบุรี พิจารณาอนุมัติหมายจับ โดยชุดสืบสวนสอบสวนควบคุมตัว "นายเอ" มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางชาวบ้านและเพื่อนคนงานตะโกนด่าสาปแช่ง แล้วมีท่าทีจะเข้ามาทำร้ายร่างกายชุดสืบสวนสอบสวนจำเป็นต้องนำตัว "นายเอ" กลับมาควบคุมตัวที่สถานีตำรวจ!!

เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก