สุดอนาถ ! ม้าเหล็กขยี้ รปภ.ร่างแหลกคาราง

ขณะเดินกลับบ้านย่านประชาชื่น ญาติโวยตำรวจเมิน ปล่อยศพให้รถไฟขบวนอื่นวิ่งทับร่วม 6 ชั่วโมง ตร.รถไฟยันแจ้งท้องที่แล้ว ด้าน ผกก.สน.ประชาชื่น อ้างรับแจ้งช้า พร้อมขอเวลาตรวจสอบ ชี้ท้องที่ไหนรับแจ้งก่อน สั่งย้ายศพได้

อุบัติเหตุรถไฟชน รปภ.เสียชีวิตคารางรถไฟ แต่ตำรวจกลับไม่สนใจปล่อยศพในสภาพแหลกเหลวทิ้งคารางนานร่วม 6 ชั่วโมง เปิดเผยเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 1 มีนาคม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถไฟชนคนเสียชีวิตบริเวณชุมชนสีน้ำเงิน ถนนประชาราษฎร์สาย 1 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยของมูลนิธิ ไปที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการเก็บศพผู้เสียชีวิต เมื่อไปถึงพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่

ขณะเดียวกันบริเวณรางรถไฟพบศพชาย 1 ราย แต่งกายในชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สภาพศพแหลกเหลว ลำตัวพาดอยู่บนรางรถไฟ ส่วนแขนซ้ายและขาขวา ขาดกระเด็นไปอยู่นอกรางรถไฟ ทราบชื่อต่อมาคือ นายประสาท สะแกนอก อายุ 40 ปี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิไม่สามารถดำเนินการเก็บศพได้ เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่มาตรวจสอบก่อน แต่ที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง สน.เตาปูน สน.ประชาชื่น และ สน.นพวงศ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมทั้งญาติของผู้ตายได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 โรงพักให้มาตรวจสอบเพื่อนำศพส่งโรงพยาบาลตามขั้นตอน แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยโรงพักแต่ละแห่งอ้างว่า ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบของตัวเอง ทั้งนี้ ระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น เริ่มมีชาวบ้านจำนวนมากออกมามุงดูมากกว่าเดิม อีกทั้งขบวนรถไฟที่วิ่งผ่านต้องชะลอความเร็วลงเพื่อเคลื่อนขบวนคร่อมร่างของผู้ตาย โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิคอยให้สัญญาณ สร้างความอเนจอนาถใจให้แก่บรรดาชาวบ้าน จนญาติของผู้ตายทนดูไม่ไหว พยายามจะวิ่งเข้าไปลากศพออกมาจากรางรถไฟ ทำให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิต้องวิ่งเข้าไปห้ามปราม พร้อมทั้งให้เหตุผลว่าต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน

เจ้าหน้าที่มูลนิธิรายหนึ่ง เล่าว่า ได้มาที่เกิดเหตุตั้งแต่รับแจ้งเหตุในเวลา 03.00 น. แต่ไม่สามารถดำเนินการเคลื่อนย้ายศพได้ เนื่องจากยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบมาตรวจสอบ จึงทำได้แค่บันทึกภาพ และนั่งคอยโดยมองดูศพแล้วน่าเวทนาอย่างยิ่ง ต้องนั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับญาติของผู้ตายตั้งแต่เวลา 03.00 น. จนเวลาล่วงเลยมาเกือบจะถึงเช้าก็ยังทำอะไรไม่ได้ และช่วงที่รออยู่นั้น ชาวบ้านเริ่มจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาล่าช้า เพราะศพยังคงอยู่ในสภาพเดิม จนถึงเวลาประมาณ 08.30 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยเมื่อมาถึงก็เร่งดำเนินการ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิรีบเก็บศพส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจในทันที

ด้าน นายสมศักดิ์ สะแกนอก น้องชายของผู้ตาย กล่าวว่า เดินทางมาถึงในเวลา 07.00 น. เมื่อเห็นศพพี่ชายนอนอยู่ในสภาพน่าอนาถก็ถึงกับเข่าอ่อน และยิ่งไปกว่านั้นภาพที่เห็นก็กลายเป็นภาพที่น่าสมเพชเวทนา เนื่องจากศพยังอยู่ที่เดิมทั้งที่เกิดเหตุตั้งแต่เวลา 03.00 น. ทำไมไม่มีการดำเนินการเคลื่อนย้ายศพพี่ชาย ต้องนั่งมองดูศพพี่ชายถูกรถไฟวิ่งคร่อมศพไปมาแล้วน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

"ทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจ เพราะเห็นพี่ชายนอนตายบนรางรถไฟในสภาพแขนขาขาด ชาวบ้านก็มามุงดูเยอะมาก รถไฟก็วิ่งข้ามศพพี่ชายไปมา ผมมองแล้วน่าสมเพชมาก ไม่รู้ว่าตำรวจไปไหนหมด ทำงานช้ามาก ตั้งแต่ตี 3 เพิ่งจะมาถึงตอน 8 โมงครึ่ง ต่างฝ่ายต่างเกี่ยงกัน ผมอยากถามตำรวจเหมือนกันว่า ทำไมถึงปล่อยให้พี่ชายผมนอนตายอยู่แบบนั้น ถ้าเป็นญาติตำรวจคงไม่ช้าแบบนี้ ทำเหมือนเขาไม่ใช่คน" นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยความรู้สึกน้อยใจ

นายสมชาย สะแกนอก น้องชายอีกคนของผู้ตาย กล่าวว่า พี่ชายเป็น รปภ.อยู่การไฟฟ้าบางกรวย หลังจากออกเวรต้องเดินผ่านชุมชนสีน้ำเงิน เพื่อข้ามทางรถไฟเข้าบ้าน แต่มาถูกรถไฟชนก่อน และหลังจากทราบเรื่องได้โทรศัพท์ไปยัง 191 เพื่อแจ้งเหตุ กระทั่งทราบว่าทาง 191 ได้ประสานไปยัง สน.เตาปูน ให้มาตรวจสอบ แต่หลังจากตรวจสอบแล้วทาง สน.เตาปูน ได้แจ้งว่าไม่ใช่พื้นที่ของ สน.เตาปูน แต่เป็นพื้นที่ของ สน.นพวงศ์ จึงได้ประสานไปยัง สน.นพวงศ์ อีกครั้ง แต่ทาง สน.นพวงศ์ ระบุว่า ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบเนื่องจากไม่ได้เกิดเหตุบนรถไฟ หรือบนชานชาลา

นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนั้นไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรจึงโทรศัพท์เข้าไปยังรายการวิทยุต่างๆ เพื่อให้ช่วยประสานอีกครั้ง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น มาตรวจสอบ แต่กว่าที่แต่ละท้องที่จะตกลงกันได้ ต้องใช้เวลานานเกือบ 6 ชั่วโมง

ด้าน พ.ต.ท.อรุษ แสงจันทร์ รอง ผกก.ส.รฟ.นพวงศ์ กล่าวว่า หลังทราบเหตุทางร้อยเวรได้ไปตรวจสอบในทันที แต่พบว่า เหตุดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบจึงไม่มีอำนาจหน้าที่ เพราะรับผิดชอบเฉพาะบนขบวนรถไฟ และชานชาลาเท่านั้น จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เตาปูน ไปดำเนินการ เพราะเข้าใจว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ทาง สน.เตาปูน บอกว่า เหตุเกิดในท้องที่ สน.ประชาชื่น ส่วนความล่าช้าที่เกิดขึ้นไม่ทราบว่า ประสานงานกันไม่รู้เรื่องหรือไม่ แต่ไม่ทราบว่า ทำไม สน.ประชาชื่น ถึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุล่าช้า

ขณะที่ พ.ต.อ.นิยม คำสวัสดิ์ ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวชี้แจงว่า คดีนี้มี ร.ต.ต.กฤษณ์พจน์ ชาญณรงค์ เป็นร้อยเวรเจ้าของคดี แต่ไม่ใช่ร้อยเวรที่เข้าเวรในช่วงเกิดเหตุ ส่วนเรื่องนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่า ทำไมถึงไปที่เกิดเหตุล่าช้า จะด้วยเข้าใจผิดว่าเป็นพื้นที่ความรับผิดชอบของโรงพักอื่น หรือไม่ก็เป็นการประสานมาล่าช้า จึงต้องไปสอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้ง สำหรับกรณีที่เป็นพื้นที่เกิดเหตุคาบเกี่ยวกับโรงพักอื่น แต่เป็นสถานการณ์เร่งด่วนอย่างเช่นกรณีนี้ พื้นที่ที่ได้รับแจ้งเหตุก่อนสามารถตัดสินใจสั่งการให้เคลื่อนย้ายศพออกไปก่อนได้ เนื่องจากรถไฟอาจจะมาทับศพซ้ำอีก จากนั้นหากพบว่าเป็นอำนาจการสอบสวนของโรงพักใดก็สามารถโอนคดีได้ในภายหลัง