ป.ป.ส. ขายทอดตลาดทรัพย์สินยึดในคดียาเสพติดสำคัญทั้งสิ้น 236 รายการ รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท
(17 ก.พ.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดินแดง ได้ดำเนินการขายทอดตลาดทรัพย์สินที่ยึดในคดียาเสพติด จำนวน 236 รายการ เช่น เรือยอร์ซ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทองคำ เครื่องประดับ วัตถุมงคล รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 40 ล้านบาท โดยมี นายณรงค์ รัตนานุกูล รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดการขายทอดตลาด ณ สำนักงาน ป.ป.ส. ดินแดง
นายณรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากผลงานการปราบปรามจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติด นับตั้งแต่ 11 กันยายน 2554 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2556
ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ถึง 548,144 คดี มีผู้ต้องหา 532,637 คน ได้ของกลางเป็นยาบ้า 118,470,095 เม็ด ไอซ์ 2,118 กิโลกรัม ส่งผลให้ สำนักงาน ป.ป.ส. สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมายในการยึดทรัพย์ ได้มากกว่า 6,695 ราย รวมเป็นมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นประมาณ 2,336 ล้านบาท สำหรับการขายทอดตลาดทรัพย์สินในวันนี้ส่วนหนึ่งมาจากคดีสำคัญๆ เช่น คดีของดาบตำรวจมนัส เสือโพธิ์ และพวก ที่พยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติด แต่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 21 และ 22 ตุลาคม 2555 และสามารถยึดทรัพย์สินในคดีได้จำนวน 80 รายการเป็นมูลค่า 171 ล้านบาท
โดยทรัพย์สินของคดีดังกล่าวที่นำมาขายทอดตลาดประกอบไปด้วย
รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น แอคคอร์ด และ รถจักรยานยนต์ ฮาเล่ย์เดวิดสัน คดีต่อมาคือ คดีของ น.ส.ปองคุณ กิตติกากุล ที่จับกุมได้เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2554 และสามารถยึดทรัพย์สินได้ 50 รายการ เป็นมูลค่า 53 ล้านบาท โดยที่ผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายไอซ์และยาอี ให้กับลูกค้าในพื้นที่พัทยา ซึ่งเป็นเครือข่ายนักค้ายาเสพติดของกลุ่มนักโทษเรือนจำกลางระยอง มีทรัพย์สินของคดีที่ขายทอดตลาดในวันนี้คือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มินิคูเปอร์ ป้ายแดง รถจักรยานยนต์บิ๊กไบซ์ ยี่ห้อดูคาติ
นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สินจากคดีของนายดำรงค์เกียรติ นุกูล (บังแป๊ว คลองไผ่) ที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 55
เป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายนักค้ายาเสพติดเรือนจำคลองไผ่ ซึ่งต่อมามีการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม ในฐานสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน โดยมีนายดำรงค์เกียรติ นุกูล (บังแป๊ว คลองไผ่) ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเป็นตัวการใหญ่สั่งการผ่านทางเฟซบุ๊ก นำมาซึ่งการยึดทรัพย์สินได้จำนวน 12 รายการ เป็นมูลค่า 2.2 ล้านบาท โดยมีทรัพย์สินที่นำออกขายทอดตลาดในครั้งนี้ คือ เรือยอร์ช MW Marine
นอกเหนือจากทรัพย์สินประเภทยานพาหนะแล้ว ยังมีทรัพย์สินประเภททองคำ ทองรูปพรรณ เครื่องประดับ นาฬิกาข้อมือ และวัตถุมงคลอีกด้วย
โดยทรัพย์สินประเภทดังกล่าว มีบางส่วนเป็นทรัพย์สินจากคดีนายจรัล พรมโคตร เครือข่ายนักค้ายาเสพติด ที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ซึ่งผลคดีทรัพย์สินดังกล่าว ศาลจังหวัดนนทบุรี มีคำสั่งถึงที่สุดให้ริบทรัพย์สินเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2553 รวม 58 รายการ เป็นมูลค่า 16 ล้านบาท และผลคดีอาญา ศาลฎีกาพิพากษาเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2555 ให้จำคุกตลอดชีวิต โดยทรัพย์สินของคดีนายจรัล พรมโคตร ที่นำออกมาขายทอดตลาดครั้งนี้ ได้แก่ ทองคำรูปพรรณ จำนวน 6 รายการ มูลค่าประมาณ 931,000 บาท และเมื่อรวมทรัพย์สินทั้งหมดที่นำมาขายทอดตลาดในวันนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 236 รายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท