จนถึงเวลา 02.30 น. พ.ต.อ.ภักดี ผกก.สภ.บาเจาะ ได้รับแจ้งจาก นาวาโท ธรรมนูญ วรรณา ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 กองทัพเรือ ว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมดแล้ว โดยในจุดยิงปะทะกันนั้น พบคนร้ายเสียชีวิตหลายคน แต่ยังมีคนร้ายอีกจำนวนหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า 30-40 คน พากันหลบหนีไปคนละทิศละทาง จึงขอให้ตำรวจจาก สภ.โดยรอบของจุดเกิดเหตุ คือ อ.ยี่งอ, อ.รือเสาะ และ อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส รวมถึงตำรวจ ส ภ.กระพ้อ, สภ.สายบุรี และ สภ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ที่ตั้งด่านสกัดเส้นทางหลบหนีของคนร้ายให้เพิ่มความระ มัดระวัง ป้องกันตนกันให้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากคนร้ายที่พากันหลบหนีนั้น มีอาวุธปืนติดกล้องอินฟาเรดรวมอยู่ด้วยหลายกระบอก
เวลา 03.30 น. พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รอง ผบช.ศชต.) ได้นำกำลังจำนวนหนึ่ง เดินทางจาก จ.ยะลา มาสมทบที่ สภ.บาเจาะ
จนถึงเวลา 06.00 น. ฟ้าสว่าง พล.ต.ต.สุชาติ รอง ผบช.ศชต. จึงได้นำกำลังทั้งหมด เดินทางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ โด ยใช้ถนนสาย อ.บาเจาะ ถึง บ้านทอน ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส พบว่า คนร้ายตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ขวางถนนเอาไว้หลายจุด รถยนต์ไม่สามารถผ่านไปได้ พล.ต.ต.สุชาติ จึงสั่งถอนกำลัง ย้อนวกกลับมาเข้าทางถนนเพชรเกษม ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลาในการเก็บตาปูเรือใบที่คนร้ายโปรยเอาไว้บนถนนนานนับชั่วโมง จึงถึงที่เกิดเหตุได้เมื่อเวลาเกือบ 8 โมงเช้า
เมื่อมาถึงหน้าฐานทหาร จุดสมรภูมิเลือด พบศพคนร้ายในสภาพแต่งกายในชุดพราง ใส่เสื้อเกราะแบบทหาร ปิด บังใบหน้าด้วยหมวกไหมพรม นอนเสียชีวิตกระจายกันอยู่ตามโคนต้นยางพารา ที่คาดว่า ใช้เป็นจุดกำบัง จุดละ 1-2 ศพ นับได้จำนวน 14 ศพ ข้างกายมีอาวุธปืนอาก้า และปืนเอ็ม.16 ครบมือทุกคน
ตรวจสภาพศพ ทราบชื่อเพียงแค่ 3 คน คือ 1 นายมะรอโซ จันทราวดี ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีความมั่นคง 11 หมาย
และเป็นผู้ต้องสงสัยตามหมายจับที่ออกโดย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 3 หมายจับ ทั้งยังเป็นผู้ร่วมก่อเหตุบุกสังหารโหด ครูชลธี เจริญชล ครูโรงเรียนบ้านตันหยง ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านม าอีก 1 คดีด้วย 2.นายซาอูดี อาลี และ 3 นายซาบีรี โลตาเซะ ส่วนผู้เสียชีวิตที่เหลืออีก 13 ศพ ยังไม่ทราบชื่อ เพราะเป็นบุคคลต่างถิ่น
ส่วนบนถนน ห่างจากปากทางเข้าฐานปฏิบัติการทหาร 50 เมตร
ยังพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บค-7968 ยะลา ซึ่งเป็นพาหนะของคนร้ายจอดอยู่ในสภาพถูกกระสุนปืนยิงพรุนไปทั้งคัน ในกระบะห ลังรถ มีเป้สนามวางอยู่ 8 ใบ ภายในมีปืนพกสั้น, ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้าง, โทรศัพท์มือถือ, เสื้อผ้า และเครื่องยังชีพอื่นๆ อีกหลายรายการ
น.ท. ธรรมนูญ วรรณา ผบ.ฉก.นราธิวาส 32 กล่าวว่า ไ
ด้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายมะรอโซ แกนนำอาร์เคเค. จะนำกำลังเข้าโจมตีฐานปฏิบัติการทหาร เพื่อล้างแค้นให้กับนายสุไฮดี ตาเห อายุ 31 ปี สมุนคนสนิทที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิตที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ทางทหารได้วางแผนตั้งรับ ทำให้นายมะรอโซ และกลุ่มคนร้ายเสียชีวิตถึง 16 รายดังกล่าว
ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ท. อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้นำคณะเดินทางมาตรวจจุดเกิดเหตุ
และให้สัมภาษณ์ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า คนร้ายเสียชีวิตรวม 16 ราย ยึดปืนสงครามได้ 19 กระบอก และปฏิเสธว่า ไม่ได้ประกาศเคอร์ฟิว เพียงแต่ขอความร่วมมือไม่ให้ชาวบ้านใน 6 ตำบลของ 2 จังหวัด คือ ต.บาเร๊ะเหนือ, ต.บาเร๊ ะใต้, ต.ปะลุกาสาเมาะ, ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และชาวบ้านในอีก 2 ตำบลใน อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี คือ ต.ดอนทราย และ ต.ไทรทอง ออกจากบ้านในช่วงยามวิกาลของคืนวันนี้ เพียงแค่คืนเดียว
“ผมไม่ได้ประกาศเคอร์ฟิว แต่เป็นการขอร้องไม่ให้ชาวบ้านใน 6 ตำบลดังกล่าว ออกจากบ้านในช่วงยามวิกาลของคืนนี้ เนื่องจากเป็นห่วงประชาชนจะไปพบเจอเข้ากับกลุ่มคนร้ายที่กำลังหลบหนีอยู่อีก 30 -40 คน ซึ่งประชาชนอาจจะเป็นอันตรายได้เท่านั้นเอง” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
ด้านนายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การประถมการศึกษานราธิวาส เขต 1 กล่าวว่า
ระหว่างหลบหนี กลุ่มคนร้ายได้เบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ด้วยการลอบวางเพลิงเผาอาคารเรียนของโรงเรียนบ้านบือเร๊ะ แต่ผู้ปกครองนักเรียนได้ช่วยกันดับไฟไว้ได้ทัน ทำให้อาคารเรียนได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“หลังเกิดเหตุยิงปะทะกัน กลุ่มครูไม่สบายใจ จึงปิดเรียนไป 5 โรง แยกเป็นโรงเรียนใน ต.บาเร๊ะเหนือ 3 โรง คือ โ รงเรียนบ้านบือเร๊ะ, โรงเรียนบ้านยือลอ, โรงเรียนบ้านอาตะบือเร๊ะ อีก 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนบ้านตันหยง ต.บาเร๊ะใต้ และโรงเรียนบ้านดูกู ต.บาเจาะ” นายอรรถสิทธิ์ กล่าว