รวบยกแก๊งรีดทรัพย์-จับอกดาราสาว
เบื้องหลังคดี "รีดทรัพย์ดาราสาว" สร้างความเสื่อมเสียให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจาก "เจษยา เวียงเกตุ" หรือ "เอม" อายุ 27 ปี ดาราสาวค่ายกันตนา เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.วังทองหลาง ว่า ถูกคนร้าย 5-6 คน อ้างตัวเป็นตำรวจร่วมกันปล้นทรัพย์และกระทำอนาจาร
ดาราสาวค่ายกันตนาอ้างทำนองว่า เมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มวันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะเดินลงมาจากห้องพัก เลขที่ 402/123 คอนโดเจดับบลิว บูเลอวาร์ด ถนนศรีวรา ทาวน์อินทาวน์ แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ลงมาถึงชั้นล่าง เพื่อจะออกไปทำธุระข้างนอก มีคนร้ายลักษณะเป็นทอมเข้ามาทักทาย จึงเข้าใจว่าเป็นแฟนคลับจึงตอบกลับไป สักพักก็มีคนร้ายอ้างเป็นตำรวจบอกว่าที่ห้องเล่นไพ่ ด้วยความกลัวจึงยอมรับ จากนั้นก็ถูกให้พาขึ้นลิฟต์ไปยังห้องพักชั้น 8 พอถึงห้องเพื่อนกำลังเล่นไพ่ก็ถูกบังคับให้เปิดตู้เซฟ แล้วคนร้ายหยิบทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท และเงินสดประมาณ 11,000 บาทไป แล้วให้เพื่อนๆ ทุกคนเอาโทรศัพท์มือถือใส่ถุงพลาสติก จากนั้นให้เพื่อนทุกคนออกจากห้องยกเว้นตน ซึ่งคนร้ายอ้างว่าค้นยาเสพติด จึงตอบกลับไปว่าไม่เคยเสพยา แล้วถูกพาขึ้นรถยนต์ก่อนถูกปล่อยตัวภายหลัง
"คำให้การของผู้เสียหายอ้างว่าเหตุเกิดวันที่ 31 มกราคม แล้วได้รับคำแนะนำจากตำรวจท่านหนึ่งให้มาแจ้งความ แต่ผู้เสียหายเพิ่งมาแจ้งความภายหลัง โดยอ้างว่ากลัวอันตรายหากเป็นตำรวจจริง อีกทั้งคำให้การอ้างว่าคนร้ายบางคนรู้สึกหน้าตาคุ้นๆ ทำให้ชุดสืบสวนเร่งรัดคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน" แหล่งข่าวในชุดสืบสวน กล่าว
หลังเกิดเหตุกล้องวงจรปิดของคอนโดมิเนียมที่ดาราสาวพักอาศัยอยู่สามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้ ทำให้ชุดสืบสวนทราบตำหนิรูปพรรณของผู้ก่อเหตุครบทุกคน จากนั้นไม่นานนัก "สุริโย หรือ โย ภูครองทุ่ง" อายุ 42 ปี อาชีพพ่อค้าในตลาดสี่มุมเมือง 1 ใน 6 ผู้ก่อเหตุที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ต่อมา ด.ต.วีรฤทธิ์ ดวนสูง อายุ 42 ปี ผบ.หมู่งาน ป.สภ.ปากเกร็ด อยู่บ้านเลขที่ 13/13 หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ นายอำพล หรือ เปี๊ยก ดิลกพงศ์ธนา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/9 หมู่ 2 ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ประกอบอาชีพทำสวนมะขาม เข้ามอบตัว
"ผมทำเป็นครั้งแรก รู้จักเป็นเพื่อนกับ ด.ต.ไพบูลย์ สังกัดกองปราบปราม บอกว่าจะไปจับยาเสพติด จึงชวนญาติคือนายอำพล ไปด้วย แต่นายสุริโยไม่รู้จัก แล้วไม่รู้ด้วยว่าเจ้าทุกข์เป็นดารา แต่รู้ว่ามีการล่อซื้อยาเสพติด ทุกคนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร หลังเกิดเหตุ ด.ต.ไพบูลย์ เอาทองคำแท่งไปขายที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ส่วนแบ่งกว่า 4 หมื่นบาท แล้วการกระทำครั้งนี้ไม่ได้แจ้งผู้บังคับบัญชา" ด.ต.วีรฤทธิ์ กล่าวอ้าง
ระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 3 คนเข้ามอบตัว แล้วเตรียมถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ดาราสาวเดินทางมาที่ สน.วังทองหลาง พร้อมกับผู้ใกล้ชิด ซึ่งดาราสาวเดินเข้าไปใช้มือปัดหมวกแก๊ปและแว่นตากันแดดที่นายสุริโยสวมใส่จนตกพื้น พร้อมทั้งใช้คำพูดทำนองว่า "จะอายทำไม พี่เป็นคนลวนลามหนู เปิดหน้าให้เห็นกันชัดๆ"
ทำให้นายสุริโย ปฏิเสธทันทีว่า "ผมไม่ได้ลวนลาม แต่ผมตรวจค้นคุณ เจ้าหน้าที่เป็นคนล่อซื้อยาเสพติดกับคุณ และพบเงินที่ใช้ล่อซื้อ 2,500 บาทอยู่ในมือคุณ" คำพูดของนายสุริโยทำให้ดาราสาวหน้าเจือนเห็นได้ชัด พร้อมทั้งโต้ตอบกลับไปว่า "ถ้าล่อซื้อจริง ทำไมไม่จับหนูข้างล่าง และทั้ง 3 คนนี้เป็นคนลวนลามหนู"
การโต้คารมของดาราสาวกับผู้ถูกกล่าวหาทำให้ตำรวจต้องรีบแยกคู่กรณีออกไปด้านนอก จากนั้น ด.ต.ไพบูลย์ ยืนยัน ผบ.หมู่ กก.2 บก.ป. เดินทางเข้ามามอบตัว โดยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้เสียหาย
"ผู้ถูกกล่าวหาจะอ้างอย่างไรก็เป็นสิทธิที่จะอ้าง แต่พฤติการณ์ในการก่อเหตุภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้อย่างชัดเจน ส่วนเบื้องหลังการก่อเหตุเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาและผู้กล่าวหาน่าจะรู้แก่ใจว่าทำเพราะสาเหตุใด แล้วต้องการอะไร ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเป็นข้อมูลว่าเป็นอย่างไร" แหล่งข่าวระดับสูงในชุดสืบสวนของ บก.น.4 กล่าว
ล่าสุด มีรายงานว่า ผู้ถูกกล่าวหาอีก 2 คน คือ นายคมสัน หรือหนึ่ง อาจราญ อายุ 29 ปี พนักงานควบคุมไฟกองถ่ายหนังของกันตนา และ น.ส.วรีรัตน์ เส็งประเสริฐ อายุ 29 ปี เดินทางมามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนแล้ว โดย น.ส.วรีรัตน์ อ้างว่า รู้จักกับลูกพี่ลูกน้องของนายคมสัน จึงแจ้งให้นายคมสันทราบว่า ผู้ที่อยู่ในห้องมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องทำผิดกฎหมาย นายคมสันจึงแจ้งตำรวจที่ถูกจับทราบแล้วมาตรวจค้น