ยกเค้าโรงตึ๊ง 4 ล้าน เจอด่าน-โดนรวบ

"ตะลึงพบทองรูปพรรณเพียบเต็มกระเป๋าเดินทาง"


เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 26 ก.พ. พล.ต.ท. มนตรี จำรูญ ผบช.ก. พ.ต.อ.สมชาย เกาสำราญ ผกก.3 บก.ทล. พ.ต.ท.ศิวกร หอมหวล สว.ส.ทล.2 กก.3 ชลบุรีพร้อมกำลัง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งโจรกรรมทรัพย์สินรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 5 คน พร้อมของกลางเป็นจำนวนมาก

โดยเมื่อเวลา 07.00 น. วันเดียวกัน ขณะที่ พ.ต.ท. ศิวกร หอมหวล สว.ส.ทล.2 กก.3 ชลบุรี พร้อมกำลังตั้งด่านตรวจค้นยานพาหนะ บริเวณทางหลวงหมายเลข 344 (บ้านบึง-แกลง) หลัก กม.ที่ 7-8 ต.หนองรี อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พบรถกระบะมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ลท 7884 กรุงเทพมหานคร วิ่งผ่านมามุ่งหน้าไปทาง อ.แกลง จ.ระยอง บนรถมีชายฉกรรจ์นั่งมา 5 คน

จึงส่งสัญญาณเรียกตรวจค้น พบกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่วางอยู่หลังกระบะ 1 ใบ มีชายนั่งคุมเชิง 3 คน จึงเชิญทั้งหมดลงจากรถและตรวจสอบทีละคน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จนกระทั่งเปิดกระเป๋าเดินทางออกดู ทำเอาเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกับตกตะลึง เพราะภายในกระเป๋าอัดแน่นไปด้วยทองรูปพรรณนานาชนิด ปืน .38 และเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊กอีก 1 เครื่อง จึงควบคุมตัวชายทั้ง 5 คน กลับมาให้ทาง พ.ต.อ.สมชาย เกาสำราญ ผกก.3 บก.ทล. สอบปากคำด้วยตัวเอง

"แถลงเป็นแก๊งโจรกรรม เพิ่งปล้นทรัพย์โรงรับจำนำมาหมาดๆ"


ทราบชื่อทั้งหมดคือ 1. นายสัญญา พัสสัง อายุ 21 ปี เป็นคนขับรถกระบะ อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 11 ต.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ 2. นายพนม หฤทัยถาวร อายุ 26 ปี 3. นายสุเชาวน์ เอี่ยมสะอาด อายุ 19 ปี 4.นายอุดมศักดิ์ นามเวช อายุ 26 ปี ทั้ง 3 ราย อยู่หมู่บ้านเดียวกับนายสัญญา และ 5. นายประวิทย์ พาราสิทธิ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่9 ต.โคกสี อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ให้การรับสารภาพว่า

เป็นแก๊งโจรกรรมทรัพย์สินตามบ้านเรือนประชาชน มีนายวิรชัช พาราสิทธิ์ อายุ 30 ปี พี่ชายของนายประวิทย์เป็นหัวหน้าแก๊ง ส่วนของ กลางที่พบทั้งหมด ประกอบด้วย ปืน .38 พร้อมกระสุน 5 นัด คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง นาฬิกาข้อมือแบรนด์ เนม 89 เรือน เครื่องทองรูปพรรณ กำไลข้อมือ สร้อยคอพร้อมพระเลี่ยมทอง แหวนทอง รวม 541 รายการ และเข็มขัดนากอีก 10 เส้น รวมมูลค่าของกลางไม่ต่ำกว่า 4.5 ล้านบาท

จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คน รับสารภาพว่าเพิ่งโจรกรรมทรัพย์สินดังกล่าวมาจากโรงรับจำนำชื่อศรีลาซาล ในซอยสุขุมวิท 105 (ซอยลาซาล) แขวง-เขตบางนา กทม. โดยใช้แก๊สตัดประตูเหล็กหลังโรงรับจำนำเข้าไป และใช้แก๊สตัดตู้นิรภัยที่ใส่ทรัพย์สินขนมา ขึ้นรถกระบะ เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 23.00 น. คืนวันที่ 25 ก.พ.

"สังหารลูกจ้างในร้าน อีก 3 ศพ"


จนถึงเวลา 04.00 น. คืนวันที่ 26 ก.พ. จึงเสร็จสิ้นใช้เวลาเกือบ 5 ชม. จากนั้นก็ขับรถหลบหนีมาทางจ.ชลบุรี ตั้งใจว่าจะตัดออกไปทางระยองกลับไป จ.สุรินทร์ แต่มาถูกจับได้เสียก่อน โดยนายวิรชัชได้แยกตัวลงจากรถ ก่อนจะถึงด่านตำรวจทางหลวงเพียง 1 กม.เท่านั้นจึงรอดไปได้หวุดหวิด หลังแถลงข่าวเสร็จสิ้นได้ประสานทางตำรวจ สน.บางนา เจ้าของท้องที่เกิดเหตุมารับตัวไปดำเนินคดีและตามล่าตัวนายวิรชัชที่ยังหลบหนีต่อไป

ด้าน พ.ต.ท.นพดล สามารถ พงส.สบ 3 สน.บางนา เจ้าของคดี เผยว่า เหตุดังกล่าวทางนายวีรชัย ตั้งเลิศสัมพันธ์ อายุ 36 ปี เจ้าของโรงรับจำนำศรีลาซาล ได้ เข้าแจ้งความไว้เมื่อเวลา 08.30 น. วันเดียวกัน จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเดินทางไปร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบร่องรอยคนร้ายใช้แก๊สตัดประตูเหล็กหลังร้านก่อนจะบุกเข้าไปด้านในใช้แก๊สตัดประตูและตู้นิรภัยกวาดทรัพย์สินไปหลายร้อยรายการ เบื้องต้น อยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานเพื่อติดตามคนร้าย จนกระทั่งช่วงบ่ายจึงได้รับแจ้งจากตำรวจทางหลวง จ.ชลบุรีว่าจับกุมคนร้ายได้แล้ว อยู่ระหว่างสอบขยายผลว่าเคยก่อคดีที่ใดมาบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางชุดสืบสวนของสน.บางนา และ กก.สส.บก.น.5 อยู่ระหว่างเค้นสอบกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คน เพิ่มเติม เนื่องจากพฤติกรรมไปตรงกับ คดีอีกหลายคดีในพื้นที่นครบาล โดยเฉพาะคดีคนร้ายลอบเข้าไปในร้านทองกิมเจี้ยฮั้ว เลขที่ 11 ใกล้สี่แยกเอสเอบี ถนนวรจักร แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม.

เมื่อคืน วันที่ 9 ก.ย. 2549 สังหารลูกจ้างในร้านเสียชีวิตถึง 3 ศพ ใช้แก๊สเจาะตัดตู้เซฟในร้านกวาดทองรูปพรรณกว่า 5 ล้านบาท ก่อนจะเปิดวาล์วแก๊สหุงต้มวางเพลิงเผาทำลายหลักฐานในร้านที่เกิดเหตุ โดยล่าสุดมีรายงานว่า ทาง กก.สส. บก.น.6 และฝ่ายสืบสวน สน.จักรวรรดิ ได้รุดมาสอบปากคำ กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 5 คนแล้ว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์