ตร.กาฬสินธุ์บุกค้นรีสอร์ตเจ้าแม่ยาบ้า-พี่สะใภ้‘อู๊ด เป็นต่อ’-ด้านดาราดังรับตกใจ-กลัวกระทบงาน

บุกล่าตัวเจ้าแม่ยาบ้ากาฬสินธุ์เมื่อวันที่ 27 ม.ค. พ.ต.อ.วิเชียร พินดวง รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ 

สั่งการให้พ.ต.ท.รัฐพล เหลาพรม รอง ผกก.กก.สส.1 ตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยพ.ต.ต.ภูมรินทร์ ขามชู สว.สส.สภ.กุฉินารายณ์ นายจักรกฤษณ์ ปรีกุล ปลัดอำเภอกุฉินารายณ์ ฝ่ายความมั่นคง นำกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ นำหมายค้นจากศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ ค66/2556 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 647 หมู่ 13 ต.บัวขาว อ.กุฉินารายณ์ ของนางวาสนา ธีระวิทยากุล อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ.45/2556 ในคดีค้ายาเสพติด

 บ้านดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาดใหญ่ สร้างบ้านพักและรีสอร์ตให้เช่าชื่อ ‘บ้านพักลูกโดด’ เจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกตรวจค้นแต่ไม่พบตัวผู้ต้องหา เนื่องจากนางวาสนาไหวตัวทันทิ้งบ้านหลบหนีไปก่อนหน้านี้ โดยนางวาสนาเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ของพื้นที่ ตำรวจพยายามติดตามจับกุมมานานนับปีแล้ว

 โดยคดีล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมนายชูศักดิ์ เฉยฉิว อายุ 44 ปี อดีตลูกจ้างเทศบาลเมืองบัวขาว และนางวิลัยวรรณ ยุทธใส อายุ 36 ปี สองสามีภรรยา พร้อมของกลางยาบ้า 15,727 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในรองเท้าแตะ ผู้ต้องหารับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน และซัดทอดว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของนางวาสนา

 ระหว่างนั้นนางวาสนาติดต่อมาที่ตำรวจต่อรองเพื่อขอยาบ้าคืนเพราะนัดส่งให้ลูกค้าไว้แล้ว และอ้างว่าจะนำยาล็อตใหม่มาส่งให้เป็นของกลางในภายหลัง เจ้าหน้าที่จึงบันทึกเสียงไว้และตรวจสอบจนทราบแน่ชัดว่าเป็นนางวาสนาจริง จึงเสนอศาลขอออกหมายจับอีกคดี และบุกมาค้นที่พักแต่คนร้ายก็หลบหนีไปได้ก่อน

 พ.ต.ต.ภูมรินทร์กล่าวว่า นางวาสนาเป็นภรรยาข้าราชการครูในอำเภอกุฉินารายณ์ และมีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้นายธีระชาติ ธีระวิทยากุล หรือ ‘อู๊ด เป็นต่อ’ นักแสดงและตลกชื่อดัง ตำรวจพบว่าเกี่ยวข้องกับคดีค้ายาบ้ามานานหลายปี จนมีฐานะร่ำรวย ส่วนใหญ่ใช้วิธีให้วัยรุ่นหรือเครือข่ายเป็นคนส่งยาบ้า ที่ผ่านมาไม่เคยถูกจับกุม จนย่ามใจกล้าโทรศัพท์ต่อรองตำรวจขอยาบ้าคืนจึงถูกซ้อนแผน และถูกออกหมายจับดังกล่าว

 วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายธีระชาติ หรือ ‘อู๊ด เป็นต่อ’ เพื่อสอบถามความสัมพันธ์กับนางวาสนา ดาราตลกชื่อดังยอมรับว่าเป็นพี่สะใภ้จริงๆ เพราะแต่งงานกับพี่ชายคนโต ส่วนตัวตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้นนี้มาก และไม่อยากจะคิดว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว อันดับแรกเลยคือช็อก ไม่รู้ว่าชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่เราสะสมมามันจะจบลงแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าพี่ชายคงจะไม่ทราบเรื่อง และช่วงนี้งานตนก็กำลังจะไปได้สวย เมื่อวานก็เพิ่งไปขึ้นคอนเสิร์ตพลพล กำลังคิดอยู่เลยว่าช่วงนี้งานที่เราทำมันกำลังไปได้ด้วยดี แฮปปี้มากๆ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้น งงไปหมด

 ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าสนิทกับผู้ต้องหามากน้อยขนาดไหน นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า ตอนเด็กเคยไปอยู่กับพี่ชายที่กาฬสินธุ์ จนเข้ากรุงเทพฯ ก็ห่างๆ กันไป แต่จะแวะไปหาพี่ชายเวลามีงานแถวๆ กาฬสินธุ์ ก็เจอกับพี่สะใภ้บ้างส่วนตัวเขาก็เป็นคนร่าเริงแจ่มใส ชอบเอ็นเตอร์เทน แต่ที่บ้านไม่มีใครระแคะระคายเลยว่าเขาเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด เพราะพี่สะใภ้บอกว่ากู้เงินมาทำห้องแถวให้เช่าเท่านั้น บอกตรงๆ ว่าช็อกมากเพราะเขาใช้นามสกุลเดียวกัน

 “ก็กลัวกระทบกับงานเหมือนกัน เพราะเรื่องแบบนี้ก็ไม่มีใครอยากเข้ามายุ่ง อีกอย่างตอนนี้ถ้าข่าวออกไปก็กลัวว่าทางค่ายจะมองเราไม่ดี และแม่ผมก็อายุมากแล้ว ท่านเป็นโรคหัวใจเรากลัวท่านจะช็อก เลยไม่อยากไปถามหรือไปบอกอะไรให้ท่านไม่สบายใจ จริงๆ คิดว่าปีนี้ดวงเราจะเฮงเพราะงานรุมเข้ามาเยอะ ไม่น่ามีเรื่องนี้เข้ามาให้เสียชื่อเสียงเลย ตอนนี้ทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน” ตลกชื่อดังกล่าวเสียงเศร้า

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด