แก๊งรุมโทรม นศ.สาวอินเดีย ขึ้นศาล ชี้โทษถึงประหาร
ทางการอินเดียนำตัวแก๊งรุมโทรมนักศึกษาขึ้นศาลครั้งแรกในวันนี้ ซึ่งหากมีคำพิพากษาออกมาว่ามีความผิด โทษถึงประหารชีวิต
วันที่ 3 มกราคม 2556 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ว่า กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมในคดีร่วมกันข่มขืนนักศึกษาสาววัย 23 ปี บนรถประจำทาง ก่อนจะรุมทำร้ายเหยื่อจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เธอเสียชีวิตในภายหลัง เตรียมขึ้นศาลครั้งแรกในวันนี้ โดยในบรรดาผู้ต้องหาทั้งหมด 5 คน จะถูกดำเนินคดีอย่างเป็นทางการในข้อหาข่มขืน ลักพาตัว และฆาตกรรมผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานใดยืนยันแน่ชัดว่า จะมีการดำเนินคดีต่อผู้ต้องหารายที่ 6 ซึ่งยังคงเป็นผู้เยาว์ และมีอายุเพียง 17 ปีหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงรอผลการสแกนกระดูกเพื่อพิสูจน์อายุ เนื่องจากผู้ต้องหามาจากย่านชุมชนแออัด และไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน แต่หากผลการตรวจกลับบ่งชี้ว่า ผู้ต้องหามีอายุเกิน 17 ปี เท่ากับว่าจะต้องขึ้นศาล และได้รับโทษเทียบเท่าผู้ต้องหาอีก 5 คนที่เป็นผู้ใหญ่ และหากคำพิพากษาของศาลแขวงซาเกต ทางตอนใต้ของกรุงนิวเดลี ซึ่งรับผิดชอบการพิจารณาคดีดังกล่าว ระบุว่า ผู้ต้องหามีความผิดจริง ทั้ง 6 คนต้องได้รับโทษสูงสุด คือ ประหารชีวิต
ทางด้านสภาทนายความของศาลแขวงซาเกตปฏิเสธขึ้นว่าความให้กับผู้ต้องหาทั้ง 6 คน โดยให้เหตุผลว่า คดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สร้างความสะเทือนขวัญให้กับประชาชนทั้งประเทศ และผู้ต้องหาล้วนมีเจตนากระทำผิดชัดเจน จนไม่สมควรได้รับการว่าความแก้ต่างให้ ด้วยเหตุนี้ทางการอาจต้องแต่งตั้งทนายความพิเศษ หรือเชิญทนายความจากศาลเขตอื่นมาว่าความให้
ในขณะที่ชาวอินเดียจำนวนมากออกมารวมตัวกัน และเดินขบวนไปตามท้องถนนไม่เว้นแต่ละวัน นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 16 ธันวาคม พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลนิวเดลีใช้มาตรการที่เด็ดขาดเพื่อลดอัตราการเกิดอาชญากรรมต่อผู้หญิง ซึ่งบทลงโทษที่ประชาชนต้องการมีตั้งแต่การทำหมันผู้ต้องหาคดีข่มขืน ไปจนถึงการประหารชีวิต
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการอินเดีย สร้างกระแสโต้เถียงในสังคมอินเดีย หลังจากเขาชี้ว่า รัฐบาลอาจเสนอกฎหมายต่อต้านการข่มขืน มุ่งเน้นการเพิ่มโทษต่อผู้กระทำผิด และจะมีการตั้งกฏหมายดังกล่าวตามชื่อของเหยื่อนักศึกษาหญิง หากครอบครัวของเธออนุญาต อย่างไรก็ดี ชาวอินเดียชี้ว่า การกระทำดังกล่าวอาจตอกย้ำความเจ็บปวดให้แก่ครอบครัวของเหยื่อนักศึกษาหญิงที่ต้องการลืมเหตุการณ์สลดครั้งนี้