จับอดีตพ่อตาโหดยิงหัวลูกเขยเผาอำพรางกลางไร่อ้อย

โดยแนวทางการสืบสวนทราบว่า นางพนมพร เจ้าของรถแต่งงานอยู่กินกับนายวิโรจน์ ฆารโสภณ อายุ  40 ปี ซึ่งพบศพถูกเผาพร้อมรถในที่เกิดเหตุ จนมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ปัจจุบันคนโตอายุ 14 ปี คนเล็กอายุ 4 ปี และได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยูที่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 4 ต.ห้วยขมิ้น อ.หนองแค จ.สระบุรี  โดยได้ไปซื้อรถยนต์คันดังกล่าว จากนั้นไม่นานเกิดทะเลาะกัน นางพนมพรจึงพาลูกทั้งสองคนพร้อมรถปิคอัพคันเกิดเหตุกลับมาอยู่บ้านเดิมที่ อ.สีชมพู บ้านเลขที่ในปัจจุบัน

ส่วนนายวิโรจน์ยังยึดอาชีพรับจ้างอยู่ที่จ.สระบุรี แต่พยายามงอนง้อขอคืนดีกับนางพนมพรหลายครั้งด้วยหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล โดยนางพนมพร ไปยึดอาชีพเป็นสาวบาร์เบียร์ที่พัทยาและกำลังมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับชายชาวต่างชาติ กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้มาที่บ้านอดีตภรรยา เพื่อร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ และเจรจาขอลูกสาวคนเล็กไปอยู่ด้วย แต่อดีตภรรยาปฏิเสธไม่ให้พร้อมกับพาลูกทั้งสองไปซ่อนที่บ้านญาติ

หลังจากผิดหวังเรื่องลูก จึงเดินไปนั่งล้อมวงดื่มเหล้ากับญาติภรรยาที่กระท่อมกลางนาในหมู่บ้าน โดยมีนายอุดม พรมพิมพ์ อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นพ่อตาผู้ตาย และยังเคยเอามีดไล่แทงผู้ตายมาแล้ว โดยหลังจากดื่มเหล้าจนเมาผู้ตายได้ด่าว่าภรรยาและนายอุดม ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้นายอุดม บันดาลโทสะ ใช้ปืนแก็ปยาวไทยประดิษฐ์ ยิงผู้ตายเสียชีวิตคาที่

พ.ต.อ. สุชาติกล่าวต่อไปว่า หลังนายวิโรจน์ เสียชีวิต นายอุดมกับญาติที่นั่งร่วมวงเหล้าจึงช่วยกันนำผ้าห่มมาพันร่างซับเลือด แล้วนำฟางข้าวมาห่ออีกชั้นเพื่ออำพรางศพ   ก่อนนำศพผู้ตายใส่รถกระบะคันดังกล่าว นำไปเผาที่เกิดเหตุดังกล่าว โดยให้ญาติที่นั่งร่วมวงเหล้าอีก 2 คน ขับรถตามติดไปรับกลับมาบ้านทำเป็นเสมือนไม่มีเหตุเกิดขึ้น

หลังจากทราบข้อมูลทั้งหมด พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติหมายจับกุม ตามหมายศาลจังหวัดเลยที่ 2/2556 ลงวันที่ 3 มกราคม 2556 เดินทางไปจับกุมนายอุดม พรพิมพ์ ที่บ้านเลขที่ 136 บ้านนาอุดม หมู่ 4 ต.ดงลาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ขณะนอนพักผ่อนภายในบ้าน  ก่อนนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.ผาขาว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อหา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา ฆ่าคนตายโดยเจตนา,ร่วมกันกระทำการใดๆแก่ศพเพื่ออำพรางคดี,วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต,พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้ร่วมกระทำที่หลบหนีและพาหนะที่ใช้กระทำความผิด กำลังติดมาดำเนินคดีต่อไป จากนั้นจึงนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพยังบ้านที่เกิดเหตุ.