ญาติผู้คุมเหยื่อนักโทษแหกคุกครวญทำใจไม่ได้

       จากคดีที่มีนักโทษชายสามคนพยายามขโมยรถแทรคเตอร์ที่ใช้ในการก่อสร้างภายในเรือนจำออกมาเพื่อหลบหนีแต่ถูกผู้คุมเรือนจำไปพบเสียก่อน จึงถูกจับเป็นตัวประกันภายในแดน 6 ของเรือนกลางจำเขาบิน ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี และหนึ่งในนักโทษสามคนที่จับผู้คุมเป็นตัวประกันได้ติดต่อขอมอบตัว 1 ราย แต่อีกสองคนนั้นไม่ยอมและเรียกร้องขอรถยนต์เพื่อหลบหนีรวมทั้งประกาศสู้ตาย ก่อนจะทำร้ายผู้คุมจนเสียชีวิต จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจวิสามัญนักโทษทั้งสองคนทันที ซึ่งเหตุการณ์เกิดตั้งแต่เวลา 15.00 น.ของวันที่ 30 ธ.ค.55 ที่ผ่านมา

ซึ่งความคืบหน้าในช่วงเช้าวันนี้ ( 31ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าเรือนกลางจำเขาบินนั้นบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติหน้าที่ด้านหน้าเพียงไม่กี่คน และมีญาติของนักโทษชายประสิทธิ์ แสนสบาย ซึ่งเป็นหนึ่งในนักโทษที่ถูกวิสามัญมาติดต่อเพื่อนำเอกสารไปขอรับศพที่โรงพยาบาลราชบุรี เพื่อจะนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา

ส่วนที่วัดหนองหนางแพรว ต.น้ำพุ อ.เมือง เป็นวัดที่จะใช้ในการตั้งศพนายสุเทพ จ้อยศรีเกตุ ผู้คุมเรือนจำกลางเขาบินที่ตกเป็นตัวประกันและถูกนักโทษทั้งสองคนฆ่าตายนั้น ทางวัดได้มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพและทางกรมราชทัณฑ์ได้เตรียมขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพให้กับนายสุเทพด้วย

ด้านนางเกสร จ้อยศรีเกตุ อายุ 46 ปี ภรรยาของนายสุเทพ กล่าวว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่คิดว่าคนที่จะต้องมาตายเป็นสามี ต้องขาดหัวหน้าครอบครัวซึ่งเป็นเสาหลัก และลูกชาย ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 ต้องมากำพร้าพ่อตั้งแต่ยังเล็ก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกันและเตรียมที่จะเคาดาวน์ในวันที่ 31 ธ.ค. แต่ทุกอย่างก็พังลงในพริบตา
 
นายสุเทพ หรือป๋าเทพ ที่บรรดาผู้คุมและนักโทษในเรือนจำเรียกกันนั้นเป็นผู้คุมที่ใจดี นักโทษและผู้คุมด้วยกันทุกคนเองก็รู้ เพราะย้ายมาจากเรือนที่นนทบุรีมาทำงานที่เรือนจำเขาบินได้เกือบ10 ปี แล้ว เป็นคนรักครอบครัวมาก โดยเฉพาะลูกชายคนเดียว เมื่อขาดหัวหน้าครอบครัวไปแล้ว ตนกับลูกก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีเพราะตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนางเมือง จ้อยศรีเกตุ อายุ 75 ปี แม่ของนายสุเทพที่เดินทางมารับศพลูกชายที่โรงพยาบาลราชบุรีก็กล่าวว่า ทราบข่าวจากทางสื่อว่าลูกชายนั้นถูกนักโทษจับเป็นตัวประกันก็ตกใจมาก แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายกับลูก และตอนนี้ก็อยากที่จะนำศพลูกชายไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของลูกชาย แต่ทางเรือนจำนั้นขอให้นำศพไว้ที่นี่ก็คงจะต้องมีพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะทำอย่างไรดี

ส่วนเรื่องของการช่วยเหลือครอบครัวของนายสุเทพนั้น ทางกรมราชทัณฑ์ได้แจ้งว่าจะดำเนินช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมทั้งดำเนินการจัดพิธีศพให้อย่างสมเกียรติด้วย