ฮือชิงหวิดจลาจล ระงับแจก เหรียญขุนพันธ์ฯ

"หลั่งไหลร่วมงานพระราชทานเพลิง"


ประชาชนทั่วสารทิศแห่ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจมือปราบจอมขมังเวท ผู้จุดประกายและสร้างตำนานองค์จตุคามรามเทพ จนกลายเป็นวัตถุมงคลที่โด่งดัง โดยพิธีมีขึ้นในเวลา 17.00 น. วันที่ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานพระราชทานเพลิงศพของอดีตนายพลจอมขมังเวท ณ เมรุพิเศษ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมืองนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เช้าประชาชนเริ่มทยอยเข้ามาในบริเวณวัด ส่วนการจราจรบนถนนราชดำเนินบริเวณด้านหน้าวัดเริ่มติดขัด

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ญาณพัฒน์ นรสิงห์ ผกก.สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช สั่งปิดการจราจรถนนราชดำเนินตั้งแต่เช้า และปิดกั้นไม่ให้ผู้คนเข้าไปด้านในเมรุ ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพราะเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้น ทำให้ประชาชนมายืนออเต็มถนนราชดำเนินด้านหน้าวัด โดยมีกำลังตำรวจภูธร ตชด. สห. ทหารกองทัพภาคที่ 4 อาสาสมัครกองปราบปรามและหน่วยอาสาสมัครชุดเหยี่ยวขาวรวม 5,000 นาย มารักษาความสงบรอบๆวัดอย่างเข้มงวด

ส่วนร้านค้าตลอดริมถนนราชดำเนิน ด้านหน้าวัดพระมหาธาตุฯเกือบทุกร้านต่างเปิดแผงขายพระและขายเหรียญจตุคามรามเทพรุ่นต่างๆ อย่างคึกคักราวกับมหกรรมตลาดพระเครื่องครั้งใหญ่ แม้กระทั่งบนฟุตปาทยังไม่มีที่เหลือวางแผง สำหรับราคาที่ขายมีการโก่งราคากันสูงลิ่วราคาพันบาทขึ้นไป ราคาหลักร้อยแทบไม่มีวางขายแม้แต่แผงเดียว

ต่อมาในช่วงบ่าย ประชาชนเดินทางมาถึงหลายหมื่นคนหลั่งไหลทยอยเข้าไปในวัดพระมหาธาตุฯอย่างคึกคัก ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว ประตูทางเข้าสู่วัดเต็มไปด้วยความแออัด หลายรายถึงกับเป็นลมล้มพับ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชายและหญิงได้ตรวจเข้มเรื่องความปลอดภัย ทุกคนต้องเดินผ่านเครื่องตรวจวัตถุระเบิดอย่างละเอียด แต่สถานที่ภายในวัดคับแคบ ทำให้ผู้คนล้นออกมาด้านนอกจนเต็มถนนราชดำเนิน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักคอยกันฝูงชนให้อยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้ก่อนถึงเวลาที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมาถึง

"มีมิจฉาชีพแอบแฝงหาประโยชน์จำนวนมาก"


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายสาโรจน์ ทองปานแก้ว อายุ 65 ปี อยู่ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ชาวบ้านที่มาร่วมงาน เปิดเผยว่า เดินทางมาจากพัทลุงตั้งแต่ช่วงเช้ามืด สาเหตุที่มาร่วมงานเนื่องจากครอบครัวเคารพ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ ที่มีบุญคุณกับพ่อของตน และพ่อได้สั่งไว้เสมอว่า พล.ต.ต. ขุนพันธ์เป็นบุคคลที่มีบุญคุณกับครอบครัว ถ้ามีงานอะไรต้องไปให้ได้ แม้ว่ารุ่นลูกหลานของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ฯจะไม่รู้จักกันก็ตาม และการมาครั้งนี้ถือว่าเป็นการมาแทนพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วร่วม 20 ปี

สำหรับการเตรียมสถานที่ภายในวัดนั้น ทางคณะกรรมการจัดงานและเจ้าภาพได้จัดแบ่งพื้นที่ 2 ส่วน คือบริเวณหน้าศาลา 100 ปี ซึ่งเป็นที่ตั้งเมรุได้ตั้งเต็นท์สำหรับแขกพิเศษ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และพลับพลาที่ประทับของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร องค์ประธานในพิธี และอีกส่วนเป็นเต็นท์สำหรับประชาชนทั่วไป

ขณะเดียวกัน ลูกหลานของเจ้าภาพงานศพได้นำเหรียญที่ระลึกและหนังสือที่ระลึกออกแจกจ่ายให้กับแขกชั้นผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในเต็นท์ด้านหน้า ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ภายในงานได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงแจ้งว่า การแจกเหรียญที่ระลึกจะแจกในช่วงที่มีการเปิดให้มีการวางดอกไม้จันท์เท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่จะจัดแถวให้ทุกคนเข้าแถววางดอกไม้จันทน์และรับของที่ระลึกด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย

ด้าน พ.ต.อ.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะหัวหน้าชุดถวายความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อยกล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงและได้ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบออกประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้รับทราบคือ ให้ประชาชนระมัดระวังเรื่องวัตถุมงคลลอกเลียนแบบหรือวัตถุมงคลที่ไม่ได้เข้าพิธีกรรม เนื่องจากมีกลุ่มมิจฉาชีพแอบแฝงมาหาผลประโยชน์จำนวนมาก พร้อมประกาศเตือนแผงพระ พ่อค้าและผู้ให้เช่าวัตถุมงคลให้อยู่ในกรอบของความถูกต้องและเป็นธรรม อย่าอาศัยความศรัทธาของประชาชนมาเป็นช่องทางหากินโดยไม่ชอบ

"ฝูงชนแห่แย่งเหรียญที่ระลึก"


ต่อมาเวลา 17.00 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จฯมาถึงวัดโดยรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯทอดผ้าบังสุกุล ทรงวางดอกไม้จันทน์บนเมรุ พระสงฆ์ 5 รูปทำพิธีชักผ้าบังสุกุล ขณะเดียวกัน ลูกหลานตระกูล พันธรักษ์ราชเดช ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯในพลับพลาที่ประทับ จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จเยี่ยมพสกนิกรที่มาเฝ้ารับเสด็จ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ

จากนั้นวินาทีที่ฝูงชนหลายหมื่นคนต่างรอคอยก็มาถึง คือการรับเหรียญที่ระลึก ด้านหน้าเป็นรูปเหมือน พล.ต.ต.ขุนพันธ์ ด้านหลังเป็นลายนิ้วหัวแม่มือของอดีตนายพลจอมขมังเวท ตามที่เจ้าภาพได้ประกาศไว้จะแจกให้ทุกคนที่มาร่วมงานพิธี โดยให้เดินเข้าคิวรับดอกไม้จันทน์พร้อมกับเหรียญที่ระลึก แต่พอถึงเวลาจริง เหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อฝูงชนแตกแถวแห่ยื้อแย่งเหรียญที่ระลึกจากกล่องกระดาษที่เจ้าภาพเตรียมไว้หน้าเมรุจนเกิดเหตุชุลมุน

จังหวะเดียวกัน คนที่อยู่ด้านหลังเกรงไม่ได้เหรียญเลยเฮโลเข้าเบียดเสียดพร้อมส่งเสียงตะโกนโห่ร้องจนเหตุการณ์ทำท่าจะบานปลาย หลายคนถึงกับเป็นลมล้มพับ ถูกเหยียบล้มระเนนระนาด บาดเจ็บร่วม 100 คน ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลกันวุ่น กระทั่งนายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ลูกชายของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ พร้อมนายตำรวจหลายนาย ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอร้องให้ทุกคนอยู่ในความสงบ หากไม่เช่นนั้นจะไม่แจกเหรียญที่ระลึกอย่างเด็ดขาด แต่ฝูงชนกลับโห่ไล่ แถมไม่ยอมเข้าแถว ยังเฮโลจะเข้าแย่งเหรียญอีก

ขณะเดียวกัน กำลังตำรวจ ทหาร และ ตชด. ที่เข้ารักษาความสงบ ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ กันไม่ให้ ฝูงชนเข้าใกล้เมรุ ขณะที่เจ้าภาพได้ประกาศงดแจกเหรียญไว้ก่อนจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ แต่จะแจกให้เฉพาะดอกไม้จันทน์เท่านั้น ทำให้หลายคนต่างผิดหวังที่ไม่ได้ เหรียญ ทยอยพากันเดินทางกลับบ้าน แต่ที่หน้าเมรุและหน้าวัดก็ยังมีประชาชนนับหมื่นคนยังนั่งจับกลุ่มเฝ้ารอความหวังว่าเจ้าภาพจะเปลี่ยนใจแจกเหรียญที่ระลึก

"เจ้าภาพงดแจกเหรียญที่ระลึก"


นายสมใจ พรหมจิตต์ อายุ 43 ปี ชาว อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ที่เดินทางมาร่วมพิธีงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เปิดเผยว่า เดินทางมาถึงตั้งแต่เช้ามืด หวังจะได้รับเหรียญขุนพันธ์กับเขาด้วย ปรากฏว่าเจ้าภาพเปลี่ยนใจไม่ยอมแจก ทำให้ผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะตั้งใจอยากจะได้เหรียญเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเอง อยากให้ทางเจ้าภาพแจกเหรียญขุนพันธ์ตามที่ประกาศตามสื่อมวลชนก่อนหน้านี้ เพราะไม่ใช่เฉพาะตนผิดหวัง แต่ชาวบ้านนับแสนคนที่ผิดหวัง และเดินทางกลับด้วยความผิดหวัง

ส่วนนายวิรัตน์ ปานทน อายุ 37 ปี นักธุรกิจชื่อดังจาก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช กล่าวด้วยความผิดหวังว่า มาถึงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตั้งใจจะมารับแจกเหรียญขุนพันธ์ในงานพระราชทานเพลิงศพแต่เมื่อถึงเวลาแจกเหรียญ เจ้าภาพกลับไม่ยอมแจก ทำให้ ชาวบ้านผิดหวังเป็นอย่างมาก อยากให้ทางเจ้าภาพหาทางแจกในภายหลังให้ได้ อย่าให้ชาวบ้านผิดหวัง เพราะข่าวที่ออกมาทำให้ชาวบ้านผิดหวังมากๆ

ต่อมาเวลา 18.30 น. ทางเจ้าภาพได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่าจะไปแจกเหรียญที่ระลึกบริเวณสนามหน้าศาลากลาง ในเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน พอกลุ่มฝูงชนทราบต่างแห่เดินไปที่หน้าศาลากลางจังหวัด แต่พอถึงเวลานัดกลับไม่มีการแจกแต่อย่างใด กลุ่มประชาชนเลยเดินย้อนมาที่วัดอีกรอบ และเจ้าภาพได้ประกาศอีกครั้งว่าจะขนเหรียญไปแจกที่สนามกีฬาเทศบาลแทน แต่พอถึงเวลากลับถูกเบี้ยวอีก ยิ่งทำให้ฝูงชนทั้งในวัดและที่เดินไปมาระหว่างวัดกับสนามกีฬาต่างไม่พอใจที่ไม่มีการแจกเหรียญ

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามทางฝ่ายเจ้าภาพว่าจะดำเนินการอย่างไรกับเหรียญที่ระลึกที่รับปากจะแจกให้ประชาชน แต่ไม่สามารถติดต่อกับเจ้าภาพหรือทางญาติได้ ส่วนฝูงชนที่ผิดหวังต่างทยอยพากันเดินคอตกออกจากวัดไปหาแหล่งบันเทิงเที่ยวคลายเครียดและกลับบ้าน เลยทำให้บรรยากาศในตัวเมืองนครศรีธรรมราชคึกคักจนรถราติดวินาศสันตะโรและชุลมุนวุ่นวายทั้งเมือง

"เจ้าหน้าที่ยังเอาไม่อยู่"


กระทั่งเวลา 21.00 น. นายณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ลูกชายของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์เปิดเผยว่า ต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนกลายเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้น ทั้งที่จริงแล้วตั้งใจจะแจกเหรียญตามกำหนดทุกอย่าง แต่เมื่อเกิดเหตุจลาจลขึ้นและเจ้าหน้าที่ไม่สามารถควบคุมฝูงชนได้เลยต้องยกเลิก อย่างไรก็ตาม การแจกเหรียญที่ระลึกต้องมีภายในคืนเดียวกันนี้ แต่มีข้อแม้ว่าเจ้าหน้าที่ต้องจัดระเบียบทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน รวมทั้งพิธีพระราชทานเพลิงต้องเสร็จในคืนเดียวกันนี้อย่างแน่นอน

ส่วนบรรยากาศภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้มีประชาชนทยอยมารวมตัวกันอีกครั้ง หลังทราบข่าวจะมีการแจกเหรียญที่ระลึกของขุนพันธ์จนเวลาประมาณ 21.30 น. มีฝูงชนร่วม 5-6 หมื่นคน มานั่งเต็มบริเวณวัดเพื่อรอรับแจกเหรียญ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่คอยดูแลความสงบอย่างใกล้ชิด

ต่อมาเวลา 22.15 น. เจ้าภาพและลูกหลานของอดีตนายพลจอมขมังเวท ร่วมกับเจ้าหน้าที่ได้นำเหรียญที่ระลึกมาแจกตามที่รับปากไว้ โดยเหรียญทั้งหมดต้องบรรทุกมาด้วยรถขนส่งผู้ต้องขังของ สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อป้องการการถูกแย่งชิง ส่วนฝูงชนต่างเข้าคิวรับอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ท่ามกลางการดูแลของเจ้าหน้าที่จำนวนมาก

และแล้วเหตุการณ์วุ่นวายโกลาหลได้หวนกลับมาอีก หลังแจกเหรียญผ่านไปไม่กี่นาที เนื่องจากฝูงชนที่รอคิวด้านหลังเกรงจะไม่ได้รับเหรียญ พากันเฮโลบุกจะเข้าแย่งชิง ทางญาติจึงสั่งงดแจกอีกรอบ และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบขับรถขนเหรียญทั้งหมดนำไปเก็บไว้โรงพักทันที สร้างความผิดหวังให้กับประชาชนที่มารอคอยอีกรอบ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์