ตร.รุดตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ 2 คนร้ายดักทุบ‘ราเมศ’ทีมกฎหมายปชป.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ตร.รุดตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ 2 คนร้ายดักทุบ‘ราเมศ’ทีมกฎหมายปชป.
จากกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์และทนาย รายการสายล่อฟ้าของสถานีทีวีดาวเทียมบลูสกาย
ถูก 2 คนร้ายดักใช้ของแข็งตีที่ศีรษะจนสลบ มีบาดแผลถูกตีที่บริเวณศีรษะด้านหลังเหนือท้ายทอย ระหว่างเดินลงจากรถยนต์คัมรี่ บริเวณด้านหน้าปาล์ม คอนโดฯ ซอยบางนา-ตราด 19 หรือซอยเชลียง 7 แขวงและเขตบางนา นำตัวส่งร.พ.บางนา 1 แพทย์ช่วยเหลืออาการปลอดภัย ก่อนส่งตัวไปรักษาต่อที่ร.พ.บำรุงราษฎร์ เมื่อกลางดึกของวันที่ 17 ธ.ค.
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ธ.ค. ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ วงศ์สิงห์ รอง สว.สส.สน.บางนา พร้อมกำลังเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่เกิดเหตุหาพยานแวดล้อมที่ปาล์ม คอนโด ทาวน์ เลขที่ 1098-1098/134 ซ.บางนา-ตราด 19 แยกซ.เฉลียง แขวงและเขตบางนา ที่พักของนายราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ
บริเวณด้านหน้าปาล์ม คอนโดฯ สูง 5 ชั้น เป็นซอยค่อนข้างแคบและมีบ้านเรือนพักอาศัยตลอดทั้งซอย โดยบริเวณด้านหน้าคอนโดฯพบรถโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์ทอง เลขทะเบียน วน 9504 กรุงเทพมหานคร ของผู้บาดเจ็บยังจอดอยู่และมีคราบเลือดที่พื้นถนนใกล้ประตูรถด้านคนขับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อมทั้งวินจยย.และชาวบ้านที่อยู่ในละแวกเกิดเหตุ พร้อมกับตรวจสอบหากล้องวงจรปิดในจุดใกล้เคียงที่เกิดเหตุตลอดทั้งซอยแต่ยังไม่พบเบาะแสต้องสงสัย
จากนั้น ฝ่ายสืบสวนได้สอบถามนางสุภาวดี แก้วหาญ อายุ 50 ปี ที่พักอยู่ในคอนโดฯเดียวกับผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุพบรถของนายราเมศขับรถเข้ามาแล้วไปจอดฝั่งตรงข้ามคอนโดฯห่างจากตนราว 10 เมตร สักพักได้ยินเสียงเรียกจากรปภ.ว่ามีคนถูกทำร้ายจึงรีบวิ่งไปดูเห็นนายราเมศนอนจมกองเลือดอยู่ จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยโดยไม่ได้สังเกตรูปพรรณของคนร้ายอย่างละเอียด เห็นเพียงคนซ้อนท้ายเป็นชายวัยรุ่นสวมเสื้อยืดสีขาว ไม่สวมหมวกกันน็อก ส่วนคนขับสวมเสื้อดำ ใส่หมวกกันน็อก หลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไปทางซอยบางนา-ตราด 13
ด้านน.ส.สุริยัน โคตะเบ อายุ 40 ปี แม่บ้านที่ดูแลปาล์ม คอนโดฯ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตอนเช้ายังเห็นนายราเมศเดินคุยโทรศัพท์ ออกไปตอน 10 โมงเช้า กลับมาก็ตอนกลางคืนทุกวัน โดยทุกครั้งจะต้องมีการทักทายกันแต่ตนเห็นโทรศัพท์อยู่จึงไม่ได้คุยกันมาก กระทั่งมาทราบเรื่องว่าถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ ที่คอนโดฯไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดเอาไว้แต่อย่างใด ส่วนนายราเมศพักอยู่ที่ห้องเลขที่ 30 ชั้น 3 อาศัยอยู่มาหลายปีแล้ว ไม่เคยมีเรื่องหรือมีปัญหากับใครในละแวกนี้
ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ วงศ์สิงห์ รอง สว.สส.สน.บางนา เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ออกหาพยานแวดล้อม และกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุ พร้อมละแวกใกล้เคียง เท่าที่สอบถามชาวบ้านในละแวกนี้ไม่พบว่าผู้บาดเจ็บเคยมีเรื่องบาดหมางกับใครแน่นอน ส่วนพยานที่เห็นคนร้ายหลบหนีไปออกทางซอยบางนา-ตราด 13 นั้น จะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่ผู้บาดเจ็บเดินทางกลับมาที่คอนโดฯ ว่าได้แวะที่ใดก่อนหรือไม่ เพื่อตรวจสอบเส้นทางที่คนร้ายใช้ติดตามผู้บาดเจ็บ เพราะในจุดที่เกิดเหตุสามารถหลบหนีได้หลายทาง ทั้งออกซอยบางนา-ตราด 13, 15, 17, และซอยอุดมสุขก็สามารถออกได้ ส่วนสาเหตุนั้นตั้งเอาไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องส่วนตัวและขับรถปาดหน้ากลุ่มวัยรุ่นในซอยเฉลียงซึ่งเป็นซอยแคบ และเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง
ด้านพ.ต.ท.อาชวิน บุญธรรมเจริญ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บางนา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งตัวผู้ได้รับบาดเจ็บจากร.พ.บางนา 1 ไปยังร.พ.บำรุงราษฎร์ ภายหลังจากถูกคนร้ายใช้ของแข็งตีเข้าที่ศีรษะจนบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ยังไม่สามารถให้การกับพนักงานสอบสวนได้ ซึ่งทางเราได้ประสานให้ฝ่ายสืบสวนสน.ลุมพินี คอยเฝ้าสังเกตการณ์ที่ร.พ.บำรุงราษฎร์แล้ว หากผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้น ก็จะดำเนินสอบปากคำทันที
พ.ต.ท.อาชวินกล่าวต่อว่า จากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบประวัติคนเจ็บว่าเคยมีปัญหากับใครบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเรื่องผู้หญิง เพื่อนำไปเชื่ยมโยงในการติดตามตัวคนร้าย ส่วนกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ขณะนี้ได้ประสานทางฝ่ายสืบสวนสน.บางนาเร่งติดตามตรวจสอบ ทั้งนี้ จากการสอบปากคำญาติผู้ที่ได้รับบาดเจ็บให้การว่า นายราเมศไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร โดยคาดว่าน่าจะเกิดจากปัญหาในเรื่องของการเมืองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้ว 1 ราย คาดว่าถ้าคนเจ็บให้การได้แล้ว คงได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการ