วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. พร้อมด้วยพ.ต.อ.สาโรจน์ ซุ่นทรัพย์ รองผบก.น.4 พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ ผกก.สน.ประเวศ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ประเวศ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายสิริชัย หรือหนุ่ม นุชเปลี่ยน อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 419 ซอยรามคำแหง 39 (เทพลีลา1) แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ของประชาชนภายในห้างสรรพสินค้า โดยจับกุมตัวได้ที่ห้างพาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ พร้อมของกลางโน๊ตบุ๊ค จำนวนกว่า 10 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกูปปี้ไอ ทะเบียนป้ายแดง 9763 ระยอง จำนวน 1 คัน ซึ่งผู้ต้องหาใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ
พล.ต.ต.ปริญญา เปิดเผยว่า นายสิริชัย ได้ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ของประชาชนที่จอดไว้ภายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ แล้วลักเอาทรัพย์สินไปขาย ซึ่งวิธีการจะใช้ไขควงงัดกระจกรถยนต์ให้หลุดออกมา เพื่อขโมยทรัพย์สินที่อยู่ในรถ ก่อเหตุติดต่อกันประมาณ 3 เดือน โดยเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2555 ได้ทุบกระจกรถยนต์ที่จอดไว้ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าพาราไดซ์ พาร์ค พื้นที่สน.ประเวศ ได้ทรัพย์สินไป 22,2500 บาท จากนั้นได้ก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ อีก 3 ครั้ง ได้โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่องและเงินสด 80,000 บาท ก่อเหตุท้องที่สน.ภาษีเจริญ 1 ครั้ง และท้องที่สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ 1 ครั้ง ได้โน๊ตบุ๊ครวม 2 เครื่อง ส่วนท้องที่สน.บางนา สน.บางยี่ขันและสน.ปทุมวัน นายสิริชัย พยายามก่อเหตุหลายครั้ง แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป ขณะนี้มีผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัวและตรวจสอบของกลางที่สน.ประเวศแล้ว 3 ราย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ประเวศ ดำเนินคดีต่อไป
จากการสอบสวนนายสิริชัย ให้การรับสารภาพ ว่า ตนเรียนจบปริญญาตรี และเคยทำงานเป็นพนักงานส่งเอกสาร อีกทั้งยังเคยมีรถเก๋งขับ แต่ติดการพนันอย่างหนักจึงออกจากงานและตระเวนก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยถูกคนร้ายทุบกระจกรถยนต์และขโมยทรัพย์สิน จึงฝังใจและเลือกที่จะใช้วิธีการเดียวกัน โดยจะเลือกทุบกระจกรถยนต์ที่จอดไว้ตามห้างสรรพสินค้า ในช่วงเวลา 13.00 น.- 17.00น. เนื่องจากมองเห็นเห็นทรัพย์สินที่อยู่ในรถได้ชัดเจน หากรถคันใดติดฟิล์มทึบก็ไม่เอา ตนจะไม่ทุบกระจกรถยนต์ที่จอดไว้ตามข้างทางเพราะเสี่ยงเกินไป ทรัพย์สินที่ได้มาส่วนใหญ่จะเป็นโน๊ตบุ๊ค และเงินสดอีกจำนวนหลายแสนบาท โดยโน๊ตบุ๊คจะนำไปขายตามร้านรับซื้อในห้างมาบุญครอง และพันธ์ทิพย์พลาซ่า เมื่อได้เงินมาจะนำไปเล่นการพนันที่บ่อนเจ๊เพี๊ยะ ย่านพญาไท พอเงินหมดก็จะมาก่อเหตุใหม่..