กรุงป่วน เหตุ รถเครนไหลเกี่ยวเสาไฟฟ้า ล้มระเนระนาด32 ต้น ทั้งต้นเล็กต้นใหญ่
ขวางถนนเป็นทางยาวกว่า 500 เมตร บนถนนพระราม 3 ช่วงแยกนราธิวาสราชนครินทร์ไปถึงแยกนางลิ้นจี่ จนต้องปิดการจราจรตลอดเส้นทาง และทำให้รถติด นอกจากนั้นยังพบเสาไฟฟ้าล้มทับบ้าน 1 หลัง และล้มทับรถเสียหายอีก 6 คัน มีผู้บาดเจ็บ 4 คน โดย 2 รายโดนไฟดูดอาการสาหัส สอบคนขับรถเครนอ้างขณะหาจุดตั้งขาเครน รถเกิดไหลลงถนนเหยียบเบรกก็ไม่อยู่ จนไปเกี่ยวเสาไฟฟ้าล้ม และเกิดความวุ่นวายตามมา
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 15 ธ.ค. ร.ต.ต.ญาณโชติ ดาวกระจาย พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหา เมฆ
ได้รับแจ้งเหตุรถเครนเกี่ยวเสาไฟฟ้าล้มทับรถยนต์และบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจนมีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบริเวณหน้าอาคารสำนักงานใหญ่ บริษัททิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริเวณถนนพระราม 3 ซอย 73 ฝั่งขาเข้า แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และได้ประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เข้าตรวจสอบและตัดไฟฟ้า
ที่เกิดเหตุเป็นสถานที่กำลังสร้างอาคารสูงหลายสิบชั้น ใกล้ปั๊มน้ำมันบางจาก พบรถเครนยี่ห้อนิสสัน สีเหลือง ทะเบียน 72-8839 กรุงเทพมหานคร
ซึ่งเป็นของบริษัทวานิช เซอร์วิส จำกัด ในสภาพเครนยกสูงตั้งอยู่ โดยมีเสาไฟฟ้าล้มทับตัวรถ จอดกีดขวางช่องการจราจรเลนซ้ายสุด และพบเสาไฟฟ้า 32 ต้น ล้มระเนระนาดขวางเต็มถนน ตั้งแต่เชิงสะพานข้ามแยกถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ถนนพระราม 3 ผ่านแยกนางลิ้นจี่ เข้าถนนนางลิ้นจี่ ถึงสะพานข้ามแยกถนนนางลิ้นจี่ มุ่งหน้าถนนนราธิวาสราชนครินทร์ รวมระยะทางประมาณ 500 เมตร ทำให้ต้องปิดการจราจร เนื่องจากมีเสาไฟฟ้าหักขวางถนน โดย 1 ใน 32 ต้นยังหักขวางอยู่บนสะพานข้ามแยกถ.นางลิ้นจี่ มุ่งหน้าถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ทำให้ต้องปิดการจราจรเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีเสาไฟฟ้าอีก 1 ต้น ที่อยู่ข้างสะพานข้ามแยกนี้หักใส่บ้านเลขที่ 206 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่อีก 1 หลังคา โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องตัดกระแสไฟบริเวณดังกล่าว
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายสงวน กิติสกนธ์ อายุ 55 ปีคนขับรถเครน ไปสอบปากคำที่สน. ทุ่งมหาเมฆ ส่วนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าก็ได้เร่งตรวจสอบความเสียหายและเครียร์พื้นที่ โดยนำเสาไฟฟ้าที่หักล้มออกจากที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นประเมินความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท
รถเครนมหาภัย-เกี่ยวเสาไฟโค่น32ต้น
นอกจากนั้น ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์ได้รับความเสียหายรวม 6 คัน
ประกอบด้วยรถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน ษณ 2974 กทม. รถยนต์กระบะอีซูซุ สีเทา ทะเบียน ชฐ 3047 กทม. รถแท็กซี่ สีส้ม ทะเบียน ทล 4316 กทม. รถคอนเทรนเนอร์ ทะเบียน 60-1370 กทม. และจยย.อีก 2 คัน ทั้งหมดมีสภาพถูกเสาไฟฟ้าทับพังยับเยิน
ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลเจริญกรุง ประชารักษ์ 3 คน
คือนายสมชาย จิตกลม อายุ 34 ปี คนขับแท็กซี่บาดเจ็บเล็กน้อยจากแรงกระแทก นายธเนศ ศรีณี อายุ 50 ปี ขับขี่จยย.ถูกสายไฟฟ้าที่ขาดฟาดใส่ตัวถูกไฟชอร์ต บาดเจ็บสาหัส และชายไม่ทราบชื่ออีก 1 คน บาดเจ็บเล็กน้อยรักษาตัว กลับบ้านไปแล้ว ส่วนอีก 1 คน ถูกนำส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ทราบชื่อนางประภาศรี วุฒิสน อายุ 44 ปี ขับขี่จยย.โดนสายไฟฟ้าที่ขาดฟาดที่หลังอย่างแรงบาดเจ็บสาหัสต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
นายธนสิทธ์ วิโรจน์สายลี อายุ 35 ปี เจ้าของรถยนต์อีซูซุ สีเทา ทะเบียน ษณ 2974 กทม. เล่าเหตุการณ์ระทึกว่า
ตนทำงานเป็นพนักงานขายรถของรถยนต์ฟอร์ด อยู่ที่ซ.สุขุมวิท 62 ขณะขับรถมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นรถเครนกำลังไหลลงมาจากเนินแขนเครนที่ตั้งอยู่บนรถได้เกี่ยวสายไฟฟ้าและเสาไฟฟ้าก็ล้มระเนระนาดตามกันไปหลายต้น มีเสียงระเบิดจากหม้อแปลงไฟฟ้าและสายไฟขาด เสียงระเบิดดังติดต่อกัน 3-4 ครั้ง ซึ่งมีเสาไฟฟ้าต้นหนึ่งหักมาทับหลังคาช่วงด้านหลังรถพังยับเยิน โชคดีมากที่เสาไม่โค่นใส่หลังคาหน้ารถไม่เช่นนั้นตนคงคายคารถไปแล้ว หลังเกิดเหตุตนยังไม่ยอมออกจากรถเพราะกลัวไฟชอร์ต รอจนเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาตัดไฟจึงยอมลงจากรถ ซึ่งยังโชคดีขณะเกิดเหตุช่วงเวลาดังกล่าวมีรถวิ่งผ่านไม่กี่คัน ไม่เช่นนั้นอาจจะมีทรัพย์สินเสียหายและคนบาดเจ็บมากกว่านี้
นายพรศักดิ์ พวงสาค อายุ 33 ปี ผู้ขับขี่จยย.หมายเลขทะเบียน 474 ฬฉร กทม. เล่าว่า ตนขับจยย.มาจากถนนพระราม 3 เพื่อข้ามสะพานมาลงถนนสาธุประดิษฐ์ จากนั้นได้เห็นเสาไฟฟ้าล้มพาดขวางสะพาน ด้วยความตกใจตนจึงเบรกกะทันหัน จนทำให้จยย.ล้มและได้รับบาดเจ็บ
ส่วนนายวิวัฒน์ สุทธิพงษ์ชัย อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 206 ที่ถูกเสาไฟหักโค่นใส่หลังคาบ้าน กล่าวว่า
ตนเป็นเจ้าของบริษัทมลิฟ้า จำกัด ผลิตขนมขบเคี้ยวชนิดหนึ่ง ขณะเกิดเหตุตนนอนพักอาศัยอยู่กับครอบครัวได้ยินเสียงเหมือนของหล่นใส่หลังคาบ้านอย่างแรง เมื่อเปิดกระจกออกมาดูพบเสาไฟฟ้าหล่นทับบ้าน จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือนำคนในครอบครัวออกจากบ้านเพราะเกรงว่าไฟฟ้าจะดูด ส่วนในบ้านมีทรัพย์สินและรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านได้รับความเสียหาย
จากการสอบสวนนายสงวน กิติสกนธ์ อายุ 55 ปี คนขับรถเครนให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ในรถเครนกำลังขยับรถหาตำแหน่งจอดรถเพื่อตั้งขารถเครนทั้ง 4 ทิศ อยู่บนเนินหน้าอาคารที่ก่อสร้างสูงเป็นทางลาดกว่าถนนเกือบ 1 เมตร ส่วนตัวเครนได้ยกตั้งขึ้นแล้ว เพื่อจะยกเครื่องปั่นไฟขึ้นไปบนชั้นที่ 10 ของอาคาร ขณะเลื่อนรถไปข้างหน้ารถได้ไหลลงมาบนถนนตนพยายามเหยียบเบรกแต่เอาไม่อยู่ จนเป็นเหตุให้แขนเครนที่ตั้งอยู่ไปเกี่ยวกับเสาไฟฟ้า จนทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
พ.ต.ท.อรุษ คำตุ้ย รอง ผกก.จร.สน.ทุ่งมหา เมฆ กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้าเคลียร์เสาไฟฟ้าที่ล้มทั้งหมดขณะนี้มี 32 ต้น
มีทั้งเสาไฟฟ้าแรงสูง และเสาไฟฟ้าเล็ก ส่วนการจราจรบนถนนพระราม 3 ติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากรถที่ใช้เส้นทางชะลอดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่จราจรทำการปิดถนนตั้งแต่ช่วงเชิงสะพานข้ามแยกพระราม 3 ให้เลี่ยงผ่านทางคลองเตยขึ้นสะพานฝั่งสาธุประดิษฐ์ ส่วนขาเข้าสะพานข้ามคลองช่องนนทรี แยกบ่อบำบัดปิดให้ใช้พื้นราบแทน
พ.ต.ท.อรุษกล่าวด้วยว่า จากการสอบสวน คนขับรถเครนที่ก่อเหตุเบื้องต้นพบว่า ทำงานไซต์งานก่อสร้างอาคารใกล้จุดเกิดเหตุ
ขณะขับออกมาลืมนำเครนลง ประกอบกับวิ่งออกมาด้วยความเร็วทำให้ไปเกี่ยวสายไฟ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินราชการ และผู้อื่นเสียหาย ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ พร้อมคุมตัวสอบสวนและตรวจหาสารเสพติดด้วย