เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานถึงกรณีผู้ก่อความไม่สงบชายแดนภาคใต้ยิง ผอ.โรงเรียนบ้านบาโง อ.มายอ จ.ปัตตานีและครูไทยพุทธเสียชีวิต ว่า
เป็นการกระทำที่โหดเหี้ยม ซึ่งตนเห็นว่าควรปรับแผน เนื่องจากเราไปมุ่งดูแลที่เส้นทาง แต่ไม่มีใครดูแลที่โรงเรียนและยังห่วงที่บ้านพักครูด้วย ฉะนั้นการดูแลรักษาความปลอดภัยต้องดูทุกจุด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นจุดอ่อนที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสีย
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยครูชายแดนภาคใต้ ว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนดูแลงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น ตนจึงต้องมีส่วนคิดค้นว่า จะทำอย่างไร โดยคิดว่า จะต้องจับเข่าคุยกับครูว่า ในมุมมองของครูคิดว่ามีข้ออ่อนข้อด้อยอย่างไรและในศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต) ครูอยากให้ทหารและตำรวจ ช่วยเหลือแบบใด ตอนนี้ต้องงดหลักการ แต่หาวิธีการที่ดีและเหมาะสมเพื่อสร้างความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของตำรวจจะไปดูแลครูในชายแดนภาคใต้อย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ต้องได้เพราะเป็นหน้าที่และทหารเองก็เต็มที่อยู่แล้ว ขณะที่ฝ่ายปกครองก็ต้องมาร่วมให้มากกว่านี้ เพราะในพื้นที่ไม่มีใครรู้จักพื้นที่ดีเท่ากับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอและฝ่ายปกครอง ซึ่งระยะหลังมีการกวาดล้างน้ำมันเถื่อนค่อนข้างรุนแรง โดยพวกค้าน้ำมันเถื่อนคือนายทุนส่วนหนึ่งและกลุ่มดังกล่าว เพราะหากไม่มีรายได้ จะนำเงินที่ไหนมาเคลื่อนไหว สิ่งที่เจ้าหน้าที่ชายแดนภาคใต้ต้องการมี 3อย่าง คือ 1.งบประมาณ 2.เครื่องมือและ3.สวัสดิการและขวัญกำลังใจ ไม่ได้ต้องการให้รัฐมนตรีลงไป ส่วนปัจจัย 3อย่างข้างต้นนั้น ต้องค่อยเป็นค่อยไป