ไฟใต้เผาไทยขึ้นอันดับ 8 ประเทศเสี่ยงก่อการร้าย

ไฟใต้เผาไทยขึ้นอันดับ 8 ประเทศเสี่ยงก่อการร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา สถาบันเพื่อการวิจัยเศรษฐกิจและสันติภาพในสหรัฐอเมริกา
 
เผยดัชนีก่อการร้ายโลก ซึ่งจัดอันดับประเทศที่มีเหตุก่อการร้ายมากที่สุดในโลกระหว่างปี 2002-2011 (พ.ศ. 2545-2555) ปรากฏว่า อิรักได้รับการจัดให้เป็นอันดับ 1 ขณะที่ไทยติดอันดับ 8 โดยมีการจัดอันดับประเทศจากทั้งหมด 158 ประเทศทั่วโลก

สำหรับผลการศึกษาใช้ดัชนีชี้วัดจากสัดส่วนการเกิดเหตุก่อการร้าย จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
 
ตลอดจนความเสียหายของทรัพย์สินที่เกิดขึ้น พบว่าเกิดเหตุก่อการร้ายเพิ่มขึ้นทั่วโลกกว่า 4 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมตึกเวิลด์เทรดถล่มเมื่อปี 2001 หรือ พ.ศ.2544

ผลการจัดอันดับในครั้งนี้ พบอีกว่า เหยื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากเหตุก่อการร้ายที่เพิ่มมากขึ้นกว่า1ใน3เป็นชาวอิรัก

นับตั้งแต่ที่สหรัฐเข้าบุกอิรักเพื่อโค่นล้มอำนาจ นายซัดดัม ฮุสเซน ประธานาธิบดีของอิรัก เมื่อ พ.ศ.2549 (ปี2006) โดยประเทศที่ได้รับความเสียหายจากเหตุก่อการร้ายมากที่สุด 4 อันดับแรก คือ ประเทศปากีสถาน อัฟกานิสถาน อินเดีย และสาธารณรัฐเยเมน

สำหรับประเทศไทย มีปัจจัยที่ส่งผลให้ถูกจัดอันดับเกิดเหตุก่อการร้ายมีความรุนแรง สืบเนื่องจากเหตุรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
 
ที่เกิดขึ้นกว่า 173 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 142 คน และบาดเจ็บ 427 คน นอกจากนี้ เมื่อปี พ.ศ.2552 เป็นปีที่เกิดเหตุความไม่สงบมีความรุนแรงมากที่สุด จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดยกว่าร้อยละ 85 ของเหตุก่อการร้ายทั้งหมด ไม่มีผู้ก่อการร้ายกลุ่มใดออกแสดงความรับผิดชอบ ทำให้การเปิดเจรจายุติความขัดแย้งของภาครัฐเป็นไปอย่างยากลำบาก

ทั้งนี้เมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ประเทศไทยจัดอยู่อันดับ 1 ตามด้วย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย พม่า มาเลเซีย และกัมพูชา ขณะที่ลาวเป็นชาติที่ไม่มีเหตุก่อการร้ายเกิดขึ้นเลยตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนา ผบก.ภจว.ปัตตานี

เปิดเผยว่า ได้นำกำลังสามฝ่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ในพื้นที่ ม.6 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาตามคดีความมั่นคง หลังจากการข่าวสืบทราบว่าคนร้ายได้หลบซ่อนตัวภายในหมู่บ้านดังกล่าว

โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 87 ซึ่งมี นายอับดุลรอเซะ อาแวกือจิ เป็นเจ้าของบ้าน
 
ก่อนจะควบคุมตัว น.ส.ณูรีฮัน อาแวกือจิ อายุ 23 ปี นายซูฮัยมี มูซอ 22 ปี ในฐานะผู้ต้องสงสัย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 11 ซึ่งมี น.ส.แมะแย สมาแอ เป็นเจ้าของบ้าน จากนั้นได้ควบคุมตัว นายมะซือดี ยูโซ๊ะ อายุ 26 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของนายมะซือดี เป็นบุคคลมีหมายจับตาม ป.วิอาญา ที่ จ.611/11/2550 และหมาย พ.ร.ก. ที่ ฉฉ.117/2552 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 85 ซึ่งมี นายแวยูโซะ หะยีลาเตะ เป็นเจ้าของบ้าน แต่จากการตรวจค้นไม่พบบุคคลตามหมายจับหรือตัวผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด สำหรับผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัยทั้งสามคนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปควบคุมไว้ที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 เพื่อสอบปากคำและขยายผลต่อไป


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์