พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจปส.จับกุมชาวอิหร่าน 1 คน พร้อมของกลางยาไอซ์ชนิดน้ำ จากนั้นสอบขยายผลจนทราบว่ามีชาวอิหร่านอีก 2 คน ร่วมแก๊งด้วย คือ นายโมฮัมหมัด กับ นายเบดี ทำหน้าที่นำยาไอซ์ส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่กทม. เจ้าหน้าที่จึงวางแผนและจับกุมตัวเอาไว้ได้ที่ย่านลาดกระบัง เมื่อช่วงค่ำวานนี้
พล.ต.อ.สมยศระบุด้วยว่า ภายหลังการสอบปากคำ นายโมฮัมหมัดและนายเบดียอมรับสารภาพว่า เป็นสมาชิกค้ายาเสพติดร่วมแก๊ง แก๊งเดียวกับนายอาลี ซึ่งเปิดบ้านเช่าอยู่ในหมู่บ้านเดอะกรีนพาร์ค ย่านพัทยาเหนือ จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นพบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านหรูขนาด 2 ชั้น ปลูกอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ ชั้นบนใช้ทำเป็นสถานที่ผลิตยาไอซ์
จากการตรวจค้น พบยาไอซ์ที่ผลิตเสร็จแล้ว รวมถึงสารตั้งต้นที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตจำนวนมาก ในขณะที่กำลังอีกชุดไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 99/560 หมู่บ้านโชคชัย 7 ซอยเขาน้อย หมู่ 5 ต.หนองปรือ พบของกลางเพิ่มเติมเป็นสารซูโดอีเฟดรีน หรือสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาไอซ์ อยู่ในเซรามิกจำนวน 20 แท่ง บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษที่ถูกแพ็กส่งมาจากประเทศไอร์แลนด์Ž รองผบ.ตร.กล่าว
สำหรับพฤติกรรมของแก๊งค้ายาชาวอิหร่านแก๊งนี้ ตำรวจปส.เฝ้าเกาะติดพฤติกรรมมานานกว่าปีเศษ ก่อนที่ทั้งหมดจะมาเช่าบ้านหรูหลังดังกล่าวในราคาเดือนละ 25,000 บาทเพื่อใช้เป็นแหล่งผลิต เนื่องจากเมืองพัทยามีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่แยกแยะลำบาก โดยนายอาลีจะเป็นคนลงมือผลิต เพราะในอดีตเคยเป็นนักเคมี จากนั้นให้เพื่อนร่วมแก๊งเป็นคนนำออกไปจำหน่ายให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทย โดยวิธีการส่งยาจะให้เอเย่นต์นำยาไอซ์ซุกซ่อนใส่ไว้ในกล่องกระดาษแล้วนำไปทิ้งไว้ตามจุดนัดหมาย หากมียาไอซ์เหลือจากจำหน่ายในประเทศไทยก็จะส่งขายไปยังต่างประเทศ ด้านวัตถุดิบนั้นสั่งจากต่างประเทศแล้วส่งมาเป็นทอดๆ เพื่อตบตาตำรวจ ผลการจับกุมแก๊งค้ายาอิหร่านครั้งนี้ถือเป็นการทลายแหล่งผลิตยาไอซ์รายใหญ่ที่สุดในประเทศ ของกลางมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาแก๊งนี้มี 8 ราย จับกุมแล้ว 4 ราย ส่วนอีก 4 รายอยู่ระหว่างหลบหนี แต่เชื่อว่ายังอยู่ในไทย โดยตำรวจประสานข้อมูลไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะด่านชายแดนติดกับประเทศมาเลเซียเพื่อให้ช่วยติดตาม คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้
เวลา 13.00 น. กำลังตำรวจชุดเดียวกันบุกตรวจค้นโกดัง เอ.อี.อี.ฮาร์ดแวร์ เลขที่ 75/24 ปากซอยชัยพรวิถี 12 หมู่ 1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ต้องหาอิหร่านทำสัญญาเช่าไว้ พบนายสมเทพ เผือกบุญนาค อายุ 57 ปี ยามรักษาความปลอดภัย (รปภ.) กับนายธีระบูรณ์ คณาวัฒนกุล อายุ 25 ปี เจ้าของโกดัง ยืนรอตำรวจอยู่ จากการตรวจค้นพบปั๊มลมขนาดใหญ่ประมาณ 20 เครื่อง และโซฟาหลายตัวเก็บอยู่ด้านใน มีโซฟาบางตัวถูกแยกชิ้นส่วนไว้ นอกจากนี้ยังพบแท่งเซรามิกลักษณะคล้ายกับที่พบในหมู่บ้านโชคชัย 7 เมื่อทุบออกดูเจอผงสีขาวไม่ทราบชนิดบรรจุอยู่ด้านใน เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด รวมทั้งยังมีน้ำยาทาเล็บอยู่อีกหลายขวด
ตำรวจสอบถามข้อมูลจากนายธีระบูรณ์ เจ้าของโกดังให้การว่า นายมาโนเชเฮอร์ เอสคันดารี ชาวไอร์แลนด์เหนือ อายุ 41 ปี ทำสัญญาเช่าโกดังในราคาเดือนละ 15,000 บาท มานานเกือบ 1 ปีแล้ว ตามปกติจะมีชาวต่างชาติขับรถเก๋งมาขนของออกไปจากโกดังเดือนละ 1 ครั้ง แต่ตนไม่ได้เอะใจอะไร ทั้งนี้ ชุดสืบสวนคาดว่าโกดังดังกล่าวน่าจะเป็นจุดที่ผู้ต้องหาลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นมาเก็บไว้ หรือไม่ก็ใช้เป็นจุดพักยาก่อนขนยาเสพติดออกไปจำหน่ายนอกประเทศ โดยซุกซ่อนยามากับโซฟาหรือปั๊มลมเพื่อตบตาตำรวจ ซึ่งจะเร่งสืบสวนขยายผลต่อไป