ตรวจเข้ม..เรือประมงปลดโซ่แรงงานทาส
ปัญหาการค้ามนุษย์เพื่อเป็นแรงงานทาสในเรือประมงยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) จึงได้ทำโครงการนำร่อง "ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์รูปแบบหลอกลวงแรงงานไปบังคับใช้ในเรือประมง" ขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ จ.สมุทรสาคร
บก.ปคม.จัดชุดปฏิบัติการตรวจแรงงานภาคประมงกว่า 50 ชีวิต ด้วยการสนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการตำรวจน้ำ, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด, สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด, สำนักงานเจ้าท่าจังหวัด, สำนักงานจัดหางานจังหวัด และตำรวจภูธรจังหวัดที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ปฏิบัติภารกิจภายในระยะเวลา 1 ปี เพื่อป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การละเมิดสิทธิแรงงาน การใช้แรงงานบังคับ ตลอดจนประชาสัมพันธ์เพื่อให้ภาคประชาชนตระหนักถึงปัญหาการค้ามนุษย์รูปแบบหลอกลวงแรงงานไปบังคับใช้ในเรือประมง
วันนี้..ชุดปฏิบัติตรวจแรงงานภาคประมง จัดแบ่งกำลังลงเรือตรวจการณ์ 3 ลำ ขนาด 40 ฟุต และ 50 ฟุต เริ่มต้นที่สถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการตำรวจน้ำ 4 ออกตระเวนไปตามแม่น้ำท่าจีนจนถึงปากอ่าวไทย เนื่องจากบริเวณนี้จะมีเรือประมง ซึ่งออกหาสัตว์ทะเลจะกลับเข้ามาที่สะพานปลาในทุกๆ วัน เมื่อพบเรือประมงต้องสงสัย ก็จะขอตรวจค้นเรือประมงทันที
เรือตรวจการณ์ลอยลำอยู่ในนานก็พบเรือประมงต้องสงสัย จึงเร่งเครื่องยนต์ตามประกบท่ามกลางความตกใจของลูกเรือประมงที่อยู่บนเรือ ก่อนส่งสัญญาณให้ลูกเรือประมงและผู้ควบคุมเรือมาอยู่ด้านหน้าเรือประมงเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ แล้วจึงขอตรวจบัตรลูกเรือ, ตรวจใบทะเบียนเรือ หรือมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนไว้ และให้ล่ามภาษาพม่าเข้ามาสอบถามลูกเรือประมงว่ามีความสมัครใจหรือถูกบังคับมาทำงาน ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้ ยังไม่พบว่าเรือต้องสงสัยมีการค้ามนุษย์แต่อย่างใด
"ถึงแม้วันนี้จะยังไม่พบการค้ามนุษย์ แต่เราได้ประชาสัมพันธ์ให้ลูกเรือที่ทำงานในเรือประมงที่สะพานปลา ได้ทราบว่าตัวท่านเองอาจตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ได้ หากมีคนชักชวนให้ไปทำงาน แต่ไม่ตรงตามข้อตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น และมีเจตนาหลอกลวง ล่อลวง ขู่เข็ญ บังคับให้ทำงาน สามารถแจ้งมาที่สายด่วน 1191 ได้ทันที" พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม.กล่าว
พล.ต.ต.ชวลิต ย้ำอีกว่า ปัญหาการค้ามนุษย์ในเมืองไทยนั้น ตกอยู่ในกลุ่มเฝ้าจับตา Tier 2 Watch List จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการค้าแรงงานในเรือประมงของไทยนั้น รุนแรงเป็นอันดับสองรองจากการค้าประเวณี จึงจำเป็นต้องให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการอาหารทะเลในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยป้องกันการค้ามนุษย์อีกช่องทางหนึ่ง
ด้าน พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา (สบ10) ยอมรับว่า ปัญหาการบังคับใช้แรงงานในเรือประมงมีความรุนแรงมากขึ้น ผู้ประกอบการหรือเจ้าของเรือ ต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และในอนาคตจะมีการสร้างศูนย์ประสานแรงงานประมงที่นี่ เพื่อจัดระบบเกี่ยวกับปัญหาการเคลื่อนย้านแรงงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ธุรกิจประมงนั้นเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ให้ประเทศมหาศาล แต่หากมีปัญหาด้านการส่งออกก็จะส่งผลเสียมายังประเทศและผู้ประกอบการเอง!!
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!