เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ สน.ลำผักชี นายฤทธิ์ โรจนกิจ ณ ระนอง เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.เจริญ บุญศิลป์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ เจ้าของคดีเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่ถูกแก๊งคนร้ายอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่
โดยนายฤทธิ์ ให้การว่า ในวันเกิดเหตุตนเดินทางไปหาพ่อที่บ้านพักย่านวังหิน เพื่อเตรียมเอกสารที่จะนำไปใช้ในการเดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์ โดยจอดรถไว้หน้าบ้าน แต่ระหว่างนั้นลืมกระเป๋าสตางค์เลยเดินออกมาที่รถ เป็นจังหวะเดียวกับที่กลุ่มคนร้ายได้ปรี่เข้ามาใช้อาวุธปืนจี้สีข้างพร้อมพูดว่า “นิ่ง ๆ อย่าขยับ” ก่อนจะบังคับให้เดินไปขึ้นรถอีกคันแล้วขับออกไปทันที จากนั้นได้ใช้หมวกไหมพรมคลุมที่ศีรษะแล้วขับรถออกไป
นายฤทธิ์ ให้การต่อว่า ระหว่างนั้นคนร้ายได้ข่มขู่ต่างๆ นานาว่าจะทำร้ายร่างกายตน อีกทั้งได้ยึดโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ไปด้วย เมื่อตนจะพูดก็บอกว่าให้เงียบอย่าตุกติก ไม่อย่างนั้นจะเจอกับนายดาบที่กองปราบแน่ ขณะที่นั่งอยู่ในรถกลุ่มคนร้ายได้อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด และกล่าวหาว่าตนค้ายา ซึ่งตนได้ปฏิเสธไปว่าไม่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลำผักชี จึงมาพบและเข้าช่วยเหลือไว้ได้
สำหรับรถที่พบในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี เป็นรถที่ตนขับไปที่บ้านพ่อในวันเกิดเหตุ แต่เป็นรถของเพื่อนที่ตนแลกรถกันขับตามปกติ อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุอยากวิงวอนกับทางสื่อมวลชนว่า แม้ว่าตนจะเป็นหลานรองนายกฯจริง ตามศักดิ์เป็นลุงหลานกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นญาติสนิทแต่อย่างใด ขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ข่าวที่เกิดขึ้นตนเกรงว่าจะทำให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง
ด้านพ.ต.ท.เจริญ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้เสียหาย และจะรวบรวมหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อรวบรวมสำนวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.