อุ้มหลานชาย กิตติรัตน์ ใส่กุญแจมือ-คลุมหัว ยัดข้อหายาเสพติด
2 ผู้ต้องสงสัย อ้างตัวเป็น ร.ต.อ. และอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. อุ้มหลานชาย กิตติรัตน์ ณ ระนอง ใส่กุญแจมือ-คลุมหัว ยัดข้อหายาเสพติด
วานนี้ (19 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลำผักชี เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย กำลังปฏิบัติหน้าที่สายตรวจอยู่บนถนนร่วมพัฒนา ม.5 แขวงลำต้อยติ่ง เขตหนองจอก พบรถแวนมิตซูบิชิ สีเทา-ดำ ทะเบียนด้านหน้า ฐร 5097 กทม. ส่วนด้านหลังไม่มีทะเบียน และมีสติ๊กเกอร์ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ติดอยู่ที่กระจกด้านหลัง จอดอยู่ในที่มืดข้างทางอย่างมีพิรุธ จึงแสดงตัวของตรวจค้น พบว่ามีชาย 2 คน โดย 1 ในนั้น อ้างว่าเป็นตำรวจยศ "ร.ต.อ." สังกัดกองปราบปราม ส่วนอีกคนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ส่วนในเบาะหลังพบชายอีก 1 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายฤทธิ์โรจนกิจ ณ ระนอง อายุ 22 ปี ถูกใส่กุญแจมือไขว้หลัง และหมวกไหมพรมคลุมศีรษะอยู่ เจ้าหน้าที่จึงวิทยุรายงานผู้บังคับบัญชา และขอกำลังเสริมอีกจำนวนหนึ่ง เนื่องจากชายสองดังกล่าว เริ่มมีท่าทีพิรุธ และเมื่อกำลังเสริมมาถึงก็เข้าจับกุมตัวชายทั้ง 2 คน และรีบนำตัวชายที่ถูกใส่กุญแจมือ และโดนคลุมหัว สอบสวนที่ สน.ลำผักชี
ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยที่อ้างตนว่าเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ. พบว่ามีบัตรแสดงตัวอ้างชื่อ ว่าที่ ร.ท.ศุภกฤษณ์ ธนวัฒน์วรวณิช อายุ 40 ปี และคนที่สองที่อ้างชื่อเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. มีบัตรแสดงตัวอ้างชื่อ ร.ท.นันทวุฒิ มรรคผล อายุ 30 ปี แต่ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบไปยังกองทัพบก็ไม่พบข้อมูลของผู้ต้องสงสัยดังกล่าว และเมื่อตรวจสอบภายในรถแวนคันดังกล่าว พบปืนขนาด .357 จำนวน1 กระบอก, กระสุน 25 นัด, ปืนพกขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และกระสุน 13 นัด จึงได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องสงสัย 3 ข้อหา คือ มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือที่ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบสวน นายฤทธิ์โรจนกิจ ได้ให้การว่า ตนเป็นหลานชาย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ขณะที่เกิดเหตุนั้น ตนจอดรถเก๋งไว้ที่บ้านแยกวังหิน เพื่อจะเข้าบ้าน แต่ระหว่างนั้นคนร้าย 2 คน อ้างว่าเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้ามาจับกุมตน และอ้างว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งตนก็ปฏิเสธทันทีว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยว แต่ชายทั้งสองคนใช้ปืนจี้หลัง แล้วจับสวมกุญแจมือ ก่อนที่จะเอาหมวกไหมพรมมาคลุมตน จากนั้นก็ได้พาตนขึ้นรถคันดังกล่าว แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือได้ทัน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า คนร้ายทั้งสองให้การปฏิเสธ และยังแอบอ้างว่าเป็นทหาร ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่พบว่าเป็นทหารสังกัดใด ๆ เลย และก็พบพิรุธในตัวผู้ต้องสงสัยมากมาย ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ จึงฝากประชาสัมพันธ์ว่า หากใครเคยถูกกระทำในลักษณะนี้ให้มาชี้ตัวที่ สน.ลำผักชี ได้ตลอด 24 ชั่วโมง