สาดน้ำมันจุดไฟเผาแฟนสาว
วันนี้ ( 12 พ.ย.) พ.ต.ท.มานพ ทรายแก้ว พงส.(สบ 3) สน.จระเข้น้อย ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกใช้น้ำมันเผาหญิงสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส
ภายในห้องพักหมายเลข 34 ชั้น 4 อาคาร 30 อาคารเอื้ออาทรโครงการลาดกระบัง 2 ถนนประชาพัฒนา แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปพณพัชร์ ตั้งจิตจารุพัชร์ ผกก. พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ สู่พานิช สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เกิดเหตุภายในห้องดังกล่าว มีร่องรอยคราบเขม่าจากการไหม้ ใกล้กันพบขวดสุราแม่โขงภายในมีน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮออล์ 91สีเขียวหลงเหลืออยู่เล็กน้อย ภายในห้องน้ำพบเสื้อยืดแขนสั้นสีแดงถูกเผาไหม้กองอยู่ ส่วนผู้บาดเจ็บญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 8 ไปก่อนหน้าแล้ว พบว่าอาการสาหัสร่างกายถูกไฟไหม้กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ แพทย์จึงนำส่งต่อไปรักษา ต่อที่โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9
พ.ต.อ.ปพณพัชร์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนญาติทราบว่า ผู้บาดเจ็บชื่อ น.ส.ธัญญารัตน์ ภูธร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 21 ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี เจ้าของห้องพักที่เกิดเหตุ เป็นพนักงานจัดสินค้า บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) โดยคนร้ายที่เป็นคนเอาน้ำมันมาราดแล้วจุดไฟเผาทราบชื่อต่อมาคือนายเอกพล อุดมมาลา อดีตแฟนของผู้บาดเจ็บ ซึ่งทำงานอยู่ที่ทำงานเดียวกัน และพักอาศัยอยู่อาคาร เอื้ออาทรโครงการลาดกระบัง 2 เหมือนกัน โดยทั้ง 2 คนเพิ่งเรียนจบ ม.6 และเข้ามาทำงานอยู่ที่เดียวกันได้ประมาณ 1 ปีและพักอาศัยอยู่ที่เอื้ออาทร แต่ฝ่ายชายมีกุญแจห้องของฝ่ายหญิง ซึ่งระยะหลัง น.ส. ธัญญารัตน์ ได้ไปคบหานายแอม ไม่ทราบนามสกุล ทำให้นายเอกพลไม่พอใจ
จนเมื่อวันที่ 11พ.ย.ที่ผ่านมาช่วงหัวค่ำ น.ส.ธัญญารัตน์ ได้พานายแอม มากินข้าวในห้องพัก จนนายเอกพล มาพบ จึงได้เข้ามาขอเคลียร์ปัญหา โดยให้น.ส.ธัญญารัตน์ เลือกว่าจะคบกับใคร ซึ่งน.ส.ธัญญารัตน์ บอกว่าจะคบกับนายแอม ทำให้นายเอกพล ไม่พอใจ และได้พูดจาข่มขู่
ทางน.ส.ธัญญารัตน์ จึงตัดสินใจไปนอนพักบ้านเพื่อน จนช่วงตีห้า จึงกลับเข้าห้องพักเพื่อแต่งตัวไปทำงาน แต่นายเอกพล ได้มาดักรออยู่ก่อนแล้ว ก่อนใช้กุญแจห้องที่มีอยู่ไขเข้าไปจิกกระฉากศีรษะน.ส.ธัญญารัตน์ แล้วใช้น้ำมันราดก่อนจุดไฟเผา และหลบหนีไป น.ส.ธัญญารัตน์ จึงวิ่งเข้าไปถอดเสื้อที่ผูกไฟไหม้ในห้องน้ำ แล้วโทรศัพท์เรียกญาติและเพื่อนให้มาพาส่งโรงพยาบาล
พ.ต.อ.ปพณพัชร์ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามแพทย์ทราบว่าอาการของน.ส.ธัญญารัตน์ ค่อนข้างสาหัส คงต้องรอดูอาการประมาณ 3 วัน
ส่วนนายเอกพล ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติศาลออกหมายจับ คาดว่าคงหนีไปได้ไม่ไกล และขณะนี้ได้ติดต่อไปยังมารดาของนายเอกพล เพื่อให้ติดต่อให้มามอบตัว กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว.