วันนี้ (11 พ.ย.) ร.ต.อ.รชต คุณดิลกณัฐวสา รองสว.สส.สภ.เมืองนครสวรรค์ รับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายที่เข้าพักโรงแรมบ้านสวนรีสอร์ท เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ ว่า ถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินในห้องเช่าพักสูญหายหลายรายการ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ มีห้องพักสไตล์รีสอร์ทกว่า 100 ห้อง ห้องที่ถูกคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สิน คือ ห้องเลขที่ 102 และ 117 โดยมีผู้เสียหาย 2 ครอบครัว ยืนรอให้การตำรวจด้วยความเซ็ง เนื่องจากทรัพย์สินที่สูญหายมีมูลค่ารวมกันสูงถึง 1 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานใช้เวลาตรวจสอบ และเก็บรอยนิ้วมือแฝงกว่า 1 ชั่วโมง พบฝ้าเพดานบนชั้นวางข้างตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ห้อง ถูกเปิดออก และพบรอยเท้าคนร้ายอีกหลายแห่ง ตั้งแต่กำแพงใต้ฝ้าจนถึงโต๊ะวางของที่ผู้เสียหายวางทรัพย์สินไว้ นอกจากนี้ยังตรวจสอบห้องหมายเลข 105 ที่อยู่ติดกันด้วยเพราะสงสัยว่าคนร้ายน่าจะเช่าห้องพักดังกล่าวไว้ก่อเหตุ เพื่อสังเกตุดูเหยื่อที่มีฐานะ รอกลางดึกจึงลงมือ
สอบถามนางสายยันต์ เยาว์วรรณ อายุ 55 ปี ผู้เสียหายรายหนึ่งให้การว่า มาทำธุระในเขต อ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมสามีและลูก เช่าห้องพักเลขที่ 117 โดยนอนหลับพักผ่อน เมื่อตื่นนอนก็พบทรัพย์สินของตนและสามีที่วางไว้บนโต๊ะหายไปเสียแล้ว ประกอบด้วย กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง ภายในมีสร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พระเลี่ยมทอง 3 องค์ โทรศัพท์มือถือ เอกสารการเงิน บัตรเอทีเอ็ม และเงินสด มูลค่ารวมหลายแสนบาท โดยเฉพาะพระเลี่ยมทองทั้ง 3 องค์ ไม่สามารถประเมินราคาได้ เช่นเดียวกับนายประจักษ์ โพธิผล อายุ 49 ปี นักธุรกิจนำเข้า ที่มาเปิดเช่าห้องพัก 102 ไว้ ทรัพย์สินสูญหายอีกเกือบล้านบาทด้วย
ด้านร.ต.อ.รชต กล่าวว่า คนร้ายวางแผนมาอย่างดี น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน เปิดเช่าพักห้อง 105 โดย 1 คนปีนฝ้าเพดานเข้าไปขโมยทรัพย์สินนั้น มีลักษณะตัวเล็ก อีกทั้งคาดว่าก่อนลงมือ น่าจะดมยาสลบไว้ เพื่อให้เหยื่อหลับสนิท แล้วจึดเปิดฝ้ามุดลงขโมยทรัพย์สินในห้อง แล้วหลบหนีไป เนื่องจากผู้เสียหายต่างให้การในทำนองเดียวกันว่า นอนหลับโดยไม่รู้สึกตัวตลอดคืนถึงเช้า
ส่วนการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม ไม่เห็นกลุ่มคนร้าย เพราะกล้องอยู่ไกลจากห้องเกิดเหตุ และอยู่ในมุมมืด จะสอบปากคำพนักงานโรงแรมต่อไป เพื่อหาเบาะแสคนร้ายดูว่าช่วงเวลา 02.00-05.00 น. มีลูกค้าห้องไหนเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมบ้าง และจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เคาท์เตอร์พนักงานต้อนรับอย่างละเอียดด้วย เบื้องต้นคาดว่า แก๊งคนร้ายน่าจะเป็นคนต่างพื้นที่ ใช้รถยนต์ตระเวนลักทรัพย์ตามโรงแรมในจังหวัดต่างๆ.