วันนี้ (8 พ.ย.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.)
ในฐานะผู้บังคับบัญชา พร้อมนายอี ภูศักดิ์ บิดา ด.ต.สัมฤทธิ์ ภูศักดิ์ อายุ 39 ปี ผบ.หมู่งานสายตรวจ ที่ถูกรถปิกอัพชนเสียชีวิต ขณะช่วยเหลือรถจอดเสียบนทางด่วน บริเวณด่านสุขุมวิท 62 เดินทางมารับศพ ด.ต.สัมฤทธิ์
นายอี กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนซื่อ นิสัยดี พูดน้อย ชอบช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งลูกชายมักจะเล่าความประทับใจที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นให้ฟังตลอด
ตนเองได้โทรศัพท์คุยกับลูกชายครั้งสุดท้ายเมื่อ 10 กว่าวันก่อน เป็นการสอบถามสารทุกข์สุขดิบและบอกให้ตั้งใจทำงาน เคารพผู้ใหญ่ พร้อมเตือนให้ทำงานอย่างมีสติ ระวังตัวในการทำหน้าที่ เพราะเป็นอาชีพที่เสี่ยงอันตราย ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุ จนเมื่อวาน (7 พ.ย.) ญาติโทรศัพท์มาแจ้งว่าลูกชายถูกรถชนเสียชีวิต หากลูกรับรู้อยากจะบอกกับลูกว่า ภูมิใจที่ลูกชายได้รับราชการ เพราะตนเองทำงานรับจ้าง และขอให้ลูกไปสู่สุคติ
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติเหตุและเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้าที่เจ้าหน้าที่ต้องให้การช่วยเหลือประชาชน
โดยตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ปกติ ไม่ได้ประมาท แต่เป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ ยืนยันตำรวจยังมีขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ แต่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้กำชับให้ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธีของตำรวจ และทบทวนการตั้งด่านสกัดจับ โดยเพิ่มความระมัดระวังและหามาตรการป้องกันเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก
ส่วนการให้ความช่วย เหลือด.ต.สัมฤทธิ์เบื้องต้นได้ทำรายงานเสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาปูนบำเหน็จเลื่อน 3 ชั้นยศจาก ด.ต.เป็นร.ต.อ.
พร้อมเงินช่วยเหลือจากสวัสดิการตำรวจ 5.3 แสนบาท และเงินบำเหน็จบำนาญอีก 2.8 แสนบาท รวมประมาณ 8 แสนบาท เนื่องจากผู้ตายเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ จะเสนอเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเป็น 7 ชั้นยศ เนื่องจากด.ต.สัมฤทธิ์เป็นตำรวจที่มีความประพฤติดี ตั้งใจทำงาน เป็นแบบอย่างให้กับตำรวจ สำหรับผู้ต้องหาที่ขับรถชนขณะนี้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพก็ดำเนินคดีไปตามปกติ
ต่อมา ช่วงค่ำ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ที่ปรึกษา (ปป4) ,พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วย ผบ.ตร.(บร5) ,ผู้บังคับบัญชา และข้าราชการตำรวจ ได้ร่วมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมมอบเงินสวัสดิการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต ณ ศาลา 4 วัดตรีทศเทพวรวิหาร.