ศึกสายเลือดแย่งมรดก พี่สาวจ้างฆ่าน้องชาย หวังฮุบที่ดิน20ล้าน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ศึกสายเลือดแย่งมรดก พี่สาวจ้างฆ่าน้องชาย หวังฮุบที่ดิน20ล้าน
ศึกสายเลือดแย่งมรดก พี่สาวจ้างฆ่าน้องชาย หวังฮุบที่ดิน"20ล้าน"
พี่น้องที่คลานตามกันมา มีบุพการีเดียวกัน ถูกเลี้ยงดูมาด้วยกัน สมัยที่ยังเป็นเด็กเล็กอยู่ก็รักใคร่กลมเกลียวกันดี
แต่เมื่อเติบใหญ่ไปมีครอบครัวของตัวเอง พี่น้องที่เคยรักกันปานจะกลืนกินกลับต้องมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน แทบจะเป็นกิจวัตรประจำวันยิ่งเมื่อมีเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินมรดกที่พ่อแม่เป็นผู้สร้างไว้ เรื่องราวมักลุกลามบานปลายกลายเป็นศึกสายเลือด จนคนที่เกิดมาจากท้องแม่เดียวกันต้องเข่นฆ่ากันเองจนกลายเป็นข่าวดังอยู่เนืองๆ
นามสกุล "โต๊ะปลื้ม" ถึงจะไม่ใช่ตระกูลใหญ่โตมั่งคั่ง เป็นคหบดีร่ำรวยชื่อเสียงโด่งดัง แต่ก็ไม่แคล้วเดินรอยตามตระกูลใหญ่ๆ ที่พี่น้องหวังต้องการฮุบมรดกจนต้องทำลายชีวิตกันเอง
เรื่องราวเหตุการณ์มรดกเลือดครั้งนี้เกิดเป็นข่าวขึ้นมาเมื่อนายต่อศักดิ์ โต๊ะปลื้ม อายุ 33 ปี ชาวจ.นครปฐม ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นบุกจ่อ ยิงที่ลานรับฝากรถ ริมถนนมาลัยแมน ม.7 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม หลังตลาดนัดคุณาวรรณ เมื่อกลางดึกวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา
จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภาค 7 เร่งติดตามคดี พร้อมสั่งให้ พล.ต.ต.สมบูรณ์ ฮวบบางยาง รองผบช. พร้อม พ.ต.อ. ปรีดา อิ่มเจริญ ผกก.สส.1 พ.ต.ท. สำราญ กลั่นมา สว.กก.สส. และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนภาค 7 ร่วมทำงาน กับ พ.ต.ท.ประทีป พันธ์หว้า รองผกก.สส. รรท.ผกก.กำแพงแสน ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุดในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คลำหาสาเหตุการสังหารโหดครั้งนี้อยู่พอสมควร เนื่องจากผู้ตายไม่ใช่คนมีชื่อเสียง หรือเกิดในตระกูลใหญ่โต
แต่หลังจากใช้เวลาไม่นานก็ทราบว่าน่าจะเกี่ยวกับปัญหาแย่งชิงมรดกระหว่างกลุ่มพี่น้อง
จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า พ่อของนายต่อศักดิ์มีความคิดจะแบ่งที่ดินครึ่งหนึ่งพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาทให้นาย ต่อศักดิ์ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียว ส่วนอีกครึ่งให้พี่สาว 3 คนแบ่งกันแต่ก็มีข่าวลือว่านายต่อศักดิ์อาจจะได้มรดกทั้งหมดไปคนเดียว ตามวัฒนธรรมของกลุ่มลาวโซ่ง ที่มักจะให้ลูกชายรับสืบทอดมรดกหรือกิจการของครอบครัวตำรวจจึงสืบเบาะแสประเด็นนี้ กระทั่งพบว่า น.ส.ธัญญารัตน์ โต๊ะปลื้ม อายุ 38 ปี พี่สาวคนโตต้องสงสัยมากที่สุด เพราะไม่พอใจเรื่องมรดก รวมทั้งมีปัญหากับน้องชายจนตัวเองต้องย้ายออกไปอยู่กับนายธีระวัฒน์ มีสะอาด อายุ 38 ปี สามีที่จ.พิจิตร
ฝ่ายสืบสวนจึงตามดูพฤติกรรมของ น.ส. ธัญญารัตน์ กระทั่งพบว่าสองสามีภรรยามีความรู้จักคุ้นเคยกับ นายหนู คงรอด อายุ 41 ปี มีประวัติก่อเหตุชิงทรัพย์ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดพิจิตร 5 ปี และออกจากคุกมาได้ 5 ปี มาประกอบอาชีพรับจ้างทำนา
โดยที่นายหนูมีลักษณะรูปร่างคล้ายมือปืนที่ยิงนายต่อศักดิ์ จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำ
เจ้าหน้าที่เสียเวลาเค้นข้อมูลไม่นาน นายหนู ก็ยอมเปิดปากสารภาพสิ้น ว่ารับจ้างจากน.ส. ธัญญารัตน์และนายธีระวัฒน์ให้สังหารนาย ต่อศักดิ์ เป็นเงิน 40,000 บาท
หลังจากลงมือสำเร็จ นายหนูขอค่าฝีมือเพิ่มอีก 25,000 บาท เพราะต้องการเงินมารักษาอาการป่วยเบาหวานและอีกหลายโรค
แต่เหมือนกรรมตามทัน เพราะหลังจากลั่นไกสังหารนายต่อศักดิ์ได้เพียง 2 สัปดาห์ มือปืนรายนี้ก็เกิดป่วยเป็นอัมพฤกษ์โดยไม่ทราบสาเหตุ
เมื่อได้คำรับสารภาพของนายหนูแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตามไปตะครุบตัวสองสามีภรรยาได้ทั้งคู่ที่บ้านพักในจ.พิจิตรทันทีที่พี่สาวและพี่เขยจอมบงการโดนตำรวจจับกุม ทั้งคู่ถึงกับเข่าอ่อนยอมสารภาพว่าไม่พอใจที่น้องชายจะได้มรดกถึงครึ่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่ตนกับน้องสาวอีกคนเป็นคนดูแลพ่อแม่ รวมทั้งดูแลน้องสาวอีกคนที่ป่วยทางสมอง
น.ส.ธัญญารัตน์อ้างด้วยว่านาย ต่อศักดิ์ชอบทำร้ายพ่อแม่ รวมทั้งตีลูกของตนจนต้องย้ายบ้านออกมา จึงตัดสินใจจ้างมือปืนมาสังหารเพื่อล้างแค้นเก่าและหวังได้มรดกแบ่งกับน้องสาวเพียง 2 คน แต่สุดท้ายก็ไม่รอด
ปิดฉากโศกนาฏกรรมของสายเลือดเดียวกันไปอีกคดี