รองผบช.น.สั่งปิดป.กุ้งเผาปิ่นเกล้า
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 1 พ.ย. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจจำนวน 40 นาย ลงพื้นที่ตรวจสถานบันเทิงร้าน ป.กุ้งเผา ปิ่นเกล้า ริมถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย ซึ่งในการตรวจครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องตรวจสารเสพติด ยี่ห้อไบโอเซนซ์-600(Biosens-600) ลงพื้นที่ตรวจเป็นครั้งที่ 2 หลังมีการนำไปตรวจแล้วกับสถานบันเทิงย่านถนนพระอาทิตย์
โดยในการตรวจการครั้งนี้มีการสุ่มตรวจนักท่องเที่ยวชายหญิงเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลส่วนใหญ่ออกมาเป็นเนกาทีฟ ไม่พบสารเสพติดชนิดใด มีเพียง 2 รายที่พบสารโคเคน กับกัญชา จึงควบคุมตัวไปทำการตรวจสอบอย่างละเอียดที่ สน.บางยี่ขัน พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า การเข้าตรวจสถานบันเทิงแห่งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา โดยการตรวจครั้งนี้ได้นำเครื่องตรวจสารเสพติด ยี่ห้อไบโอเซนซ์-600 มาทำการตรวจด้วย เนื่องจากต้องการวัดประสิทธิภาพว่าได้ผลแม่นยำขนาดไหน โดยผู้บังคับบัญชาต้องการให้ลงพื้นที่ทำการตรวจอย่างจริงจัง 3 ครั้ง เพื่อนำไปประเมินผลในการตัดสินใจซื้อเครื่องตรวจสารเสพติดนี้ และจากการตรวจในครั้งนี้พบมี 2 ราย ที่ผลจากเครื่องแสดงว่า เสพสารเสพติดประเภทโคเคนกับกัญชา สำหรับเครื่องตรวจดังกล่าวสามารถตรวจหาสารเสพติดได้จำนวน 7 ชนิด ได้แก่ กัญชา, ยาเค, ยาอี, ยาบ้าหรือกลุ่มแอมแฟตามีน, ยาไอซ์, โคเคนและยากลุ่มฝิ่น เฮโรอีน มอร์ฟีน ซึ่งหลักการทำงานของเครื่องนี้จะใช้น้ำลายหรือเหงื่อ ของผู้ต้องสงสัย มาป้ายบนแผ่นตรวจ จากนั้นจะนำเข้าเครื่องตรวจโดยจะผ่านกระบวนการความร้อนจนระเหยเป็นไอ และกลายเป็นโมเลกุล แล้วเครื่องจะประมวลผลจากฐานข้อมูลยาเสพติดทั้ง 7 ชนิดในเครื่อง แล้วจึงปริ้นท์ผลว่าผู้ตรวจเสพสารเสพติดชนิดใด เสพมามากและแรงแค่ไหน โดยจะใช้เวลาตรวจประมาณ 2 นาทีต่อ1คนซึ่งใช้เวลาที่น้อยมากจึงทำให้สะดวกและรู้ผลได้อย่างรวดเร็ว
“จากการตรวจสอบร้านดังกล่าวไม่มีใบอนุญาต รวมทั้งช่องทางเข้าออกและประตูหนีไฟคับแคบ ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้จะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้บริการ จึงสั่งให้ปิดการบริการชั่วคราวก่อน” รอง ผบช.น. กล่าว