"จะเปลี่ยนสายอยู่แล้ว แต่เกิดเพลิงไหม้ซะก่อน"
เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ต.เสนาะ ทาบุญ สารวัตรเวร สภ.อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนวัดเมตารางค์ ม.3 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ท.ปรัชญา สุทธิปรีดา ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.มนูญ วงศาโรจน์ รอง ผบก. พ.ต.อ.ธิติพงษ์ เศรษฐีสมบัติ ผกก.สภ.อ.สามโคก และนายชาญ พวงเพชร นายก อบจ.ปทุมธานี และรถดับเพลิง อบต.ต่างๆ จำนวน 5 คัน ที่เกิดเหตุเป็นโรงเรียนไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง พื้นล่างเป็นที่โล่ง และมีห้องครัวห้องเดียวเพลิงได้ลุกไห้มที่ห้องครัวประกอบอาหารเลี้ยงนักเรียน เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แค่ 20 นาที เพลิงก็ไหม้วอดไปทั้งหลัง
สอบสวนนางอารญา วุฒิยางกูล อาจารย์ใหญ่ ให้การว่า ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ในโรงเรียน แต่มีครูเวร คือ นายบรรลือศักดิ์ กุลศิริ นายชุมพล เมืองสบาย และนายนิต ปัญจาคะ ภารโรงที่อยู่ในโรงเรียน เมื่อสอบสวนครูและภารโรง ต่างให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้พักอยู่ที่ห้องพักครูเวรอยู่ที่อาคารสองชั้นอยู่ห่างออกไปอีก 50 เมตร โดยมีนายนิต ภารโรงได้ร้องเรียกว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูงเป็นอาคารเก่าแก่ มีการสอนเด็กนักเรียนชั้นประถม 3 และ 4 มีจำนวน 4 ห้องเรียน ถูกเพลิงไหม้ชั่วพริบตาหมดไปทั้งหลัง ก่อนที่รถดับเพลิงจะมาถึงโดยพวกตนได้ช่วยกันใช้น้ำประปาฉีดดับไฟแต่ก็ดับไม่ได้ และรถดับเพลิงมาช้าด้วย จึงเป็นเหตุให้ไฟไหม้หมดทั้งอาคาร ทางโรงเรียนได้เปลี่ยนสายไฟภายในอาคารเรียนหลังปัจจุบันหมดแล้ว เหลือแต่อาคารหลังเก่าที่เกิดเหตุนี้ว่า จะเปลี่ยนสายไฟฟ้าในเร็วๆ นี้ แต่มาเกิดเหตุไฟไหม้เสียก่อน