คุมหนุ่มปากีสถานโหดฆ่าเจ้าของบาร์เบียร์ทำแผน
ตำรวจภาค5คุมตัวหนุ่มปากีสถาน ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอสาวเจ้าของบาร์เบียร์ หมกห้องพักกลางเมืองเชียงใหม่ ทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางกำลังคุ้มกันแน่นหนา แต่หวิดถูกญาติและประชาชนรุมประชาทัณฑ์
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ ( 26 ต.ค.) พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พ.ต.อ.อักษร วงค์ใหญ่ ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองเชียงใหม่ พร้อมกำลังตำรวจปราบจลาจล 50 นาย ได้ควบคุมตัว นายอารี ไซเอด มูฮัมเมค อายุ 41 ปี ชาวปากีสถาน ผู้ต้องหาคดีฆ่าปาดคอนางดวงเดือน ฮาร์ริส เจ้าของร้านมิทไนท์บาร์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีญาติพี่น้องของผู้ตายและประชาชนที่ทราบวข่าวจำนวนมากมาร่วมสังเกตุการณ์และพยายามลุกฮือจะรุมประชาฑันณ์คนร้าย แต่ตำรวจเข้าควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง และสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะฆ่าข่มขืน และโจรกรรมทรัพย์สินผู้ตายแล้วหลบหนีไป จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายอารี ได้เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่เพื่อมาท่องเที่ยว ก่อนเกิดเหตุได้ว่าจ้างนางดวงเดือนพาเที่ยวทัวร์ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยตกลงว่าจะให้ค่าจ้างเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง ซึ่งผู้ตายตกลงและได้พาไปเที่ยว และเข้าพักที่ลายไทยเกรสเฮาท์ และทั้งสองได้ร่วมหลับนอนกัน หลังจากเสร็จกิจ นายอารี ได้มอบเครื่องรางของศาสนาฮิสลาม และเป็นของที่ชาวปากีสถานเคารพบูชาอย่างมากให้แก่ นางดวงเดือน แต่นางดวงเดือน โยนทิ้งทันทีที่รับของ และก็ได้พูดจาในทำนองดูถูกทำให้นายอารี โกรธแค้นมากจึงใช้เชือกรัดคอแล้วใช้ขวดเบียร์ทุบจนแตกและปาดคอนางดวงเดือน ก่อนจะกวาดทรัพย์สินทั้งหมดขึ้นรถทัวร์ออกจากจังหวัดเชียงใหม่และเดินทางไปเข้าพักที่อ.หาดใหญ่ เพื่อหาช่องทางหลบหนีไปประเทศมาเลเซีย แต่พบว่าตำรวจตม.มีเบาะแสและรูปถ่ายของตนทุกแห่ง จึงหลบหนีมากรุงเทพเพื่อขึ้นเครื่องบินออกนอกประเทศ กระทั่งถูกจับกุมได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมสร้อยคอมือทองคำหนัก 1 บาท สร้อยข้อมือทองคำฝังเพชร หนัก 2 บาท แหวนทองคำฝังเพชร นาฬิกายี่ห้อกุชชี่ สีทอง หน้าปัดกลมทองสลับเงินแบบกำไล จึงได้นำตัวมาดำเนินคดีข้อหา"ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา"