ญาตินักร้องผับดังร้องสื่อถูกด.ต.ตื้บสาหัส ปมหึงกิ๊กใหม่เมียน้อย ชี้คดีไม่คืบ

ญาตินักร้องผับดังร้องสื่อถูกด.ต.ตื้บสาหัส ปมหึงกิ๊กใหม่เมียน้อย ชี้คดีไม่คืบ

 เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า นางปวริศา วาดวงพัตร์ อายุ 38 ปี อยู่ถ.ลพบุรี ราเมศวร์ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมญาติได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนใน อ.หาดใหญ่ หลังจากที่ นายธนวัฒน์ เพ็ชรเจริญ อายุ 36 ปี น้องชาย ซึ่งเป็นนักร้องอยู่ในสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ถูกนายดาบตำรวจสังกัดชุดสืบสวนภูธร จ.สงขลา ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นต้องผ่าตัดสมองและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เนื่องจากอาการสาหัสยังไม่รู้สึกตัว

 โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่บริเวณปากซอย 6 ถนนเพชรเกษม อ.หาดใหญ่ และได้มีการเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ไว้เป็นหลักฐานแต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคู่กรณีเป็นตำรวจ และคดีล่าช้า จึงเข้าร้องเรียนผ่านสื่อ เพื่อให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการตามกฎหมายกับตำรวจนายนี้ ซึ่งมียศเป็นดาบตำรวจ

 ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากความหึงหวง เนื่องจากนายธนวัฒน์ ซึ่งเป็นนักร้องกำลังคบหาดูใจกับหญิงสาว ซึ่งเป็นเมียน้อยของตำรวจคู่กรณี แต่ฝ่ายหญิงอยู่ระหว่างขอแยกทาง ทำให้ตำรวจนายนี้ เกิดความหึงหวงและไม่ยอมเลิก จึงลงมือทำร้ายร่างกายโดยการกระทืบเข้าที่บริเวณใบหน้าและศีรษะจนสลบและอาการสาหัสถึงขั้นผ่าตัดสมอง

 นางปวริศา เล่าว่า นายธนวัฒน์ น้องชายซึ่งเป็นนักร้องนำของวงดนตรีในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านถนนธรรมนูญวิถี ในคืนเกิดเหตุเวลาประมาณตี 2 หลังจากเลิกงานน้องชายได้ขับรถจักรยานยนต์ตามหลังรถเก๋งของหญิงสาวที่กำลังคบหากัน เพื่อไปส่งที่บ้าน จนมาถึงบริเวณปากซอย 6 ถนนเพชรเกษมทั้งสองคนได้จอดรถและเข้าไปคุยกันในรถเก๋งของฝ่ายหญิง

 ต่อมาตำรวจนายนี้ได้ขับรถเก๋งมาปาดหน้า ซึ่งคาดว่าน่าจะสะกดรอยตามทั้งสองคนมาห่างๆ จากนั้นฝ่ายหญิงจึงให้น้องชายลงจากรถโดยบอกว่า ให้กลับไปก่อนตัวเองจะเคลียร์กับตำรวจนายนี้เพื่อขอแยกทาง หลังจากที่ได้พยายามขอเลิกมาพักใหญ่ แต่ตำรวจนายนี้ไม่ยอมเพราะความหึงหวงและพยายามงอนง้อขอคืนดี แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วยและเริ่มตีตัวออกห่าง

 แต่ขณะที่น้องชายกำลังนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ได้ถูกตำรวจนายนี้ตามมาถีบจนล้ม กองลงกับพื้นและยังเข้าไปกระทืบซ้ำที่ใบหน้าและศีรษะนับครั้งไม่ถ้วน แม้ฝ่ายหญิงจะเข้าห้ามและขอร้องไม่ให้ทำร้าย แต่ตำรวจนายนี้ก็ยิ่งลงมือหนักขึ้นจนสลบเหมือดและขึ้นรถเก๋งขับออกไป ส่วนน้องชาย ฝ่ายหญิงได้ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ และภายหลังเกิดเหตุฝ่ายหญิงก็เป็นผู้ที่เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับตำรวจนายนี้ เนื่องจากไม่สามารถทนกับพฤติกรรมหึงหวงของตำรวจนายนี้ได้