มอบตัวแล้วด.ต.นครบาลแก๊งยาบ้าเชียงราย-สารภาพสิ้น เพื่อนตร.ที่ถูกไล่ออกชวนร่วมขบวนการ

ภาพจาก ข่าวสด

จากกรณีตำรวจ สภ.งาว จ.ลำปาง สกัดจับรถ 2 คัน พบยาบ้า 1,280,000 เม็ด และยาไอซ์ 5 ก.ก. มูลค่าประมาณ 400 ล้านบาท พร้อมจับกุมตัวนายฐิติ เพ็งสุข อายุ 42 ปี สารภาพเป็นขบวนการขนยาบ้าจากภาคเหนือเข้ากรุงเทพฯ และซัดทอดว่าหัวหน้าแก๊งคือ ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่จราจร สน.ประชาชื่น ซึ่งทิ้งรถหลบหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ตำรวจนครบาลเข้าตรวจค้นห้องพักในแฟลตตำรวจ พบรถเก๋งราคาแพงหลายคัน รวมทั้งบ้านพักที่จ.ปทุมธานี และคอนโดฯ ย่านรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี อีกด้วย จึงยึดไว้ตรวจสอบ และอายัดทรัพย์สินทั้งหมด มูลค่ารวมกันประมาณ 20 ล้านบาท ขณะที่มีคำสั่งให้ด.ต.มนัส ออกจากราชการไว้ก่อนและสอบขยายผลเสนอขอหมายจับเพื่อนร่วมแก๊งอีกหลายรายนั้น

 ความคืบหน้าวันที่ 24 ต.ค. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบก.สปพ. (191) พ.ต.อ.จักร อ่อนนิ่ม ผกก.สน.ประชาชื่น นำตัวด.ต.มนัส มาแถลงข่าวหลังเข้ามอบตัวที่สภ.งาว เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ก่อนที่ สปพ.จะเดินทางไปรับตัวเข้ากรุงเทพฯ

 พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า รู้สึกเสียใจที่คนกระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ซึ่งได้กำชับและจัดชุดออกติดตามกับทางปส. และบช.ภ.5 ซึ่งประสานงานกันตลอดมา โดยให้เพื่อนตำรวจในนครบาลติดต่อด้วย ต่อมาด.ต.มนัสได้ติดต่อให้ผู้บังคับบัญชาไปรับตัว โดยให้ความร่วมมืออย่างดี ซึ่งจะสืบสวนขยายผลให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 ด้านด.ต.มนัสกล่าวด้วยว่า ทีแรกไม่ได้ตั้งใจเข้าสู่วงการยาเสพติด แต่มีเพื่อนชักจูงเห็นว่ารายได้ดี ทำมานานแล้วประมาณ 2 ปี จำไม่ได้ว่ากี่ครั้งแต่ไม่น่าเกิน 10 ครั้ง เพราะทำทีก็เว้นช่วงไปนาน เพื่อนที่ชักจูงเป็นตำรวจเก่าที่เคยอยู่สน.ประชาชื่น คือ จ.ส.ต.ประวิน ทวยภา อดีตสายตรวจ สน.ประชาชื่น ถูกไล่ออกจากราชการเมื่อประมาณปี 2546 มีหน้าที่ขับรถไปรับยาจากภาคเหนือเข้ามาส่ง

 ผู้สื่อข่าวถามว่าไม่คิดหรือว่าสักวันจะถูกจับ ด.ต.มนัสกล่าวว่า หยุดมา 3-4 เดือนแล้ว แต่เขาขอร้องให้มาส่งอีกเที่ยวหนึ่ง ตอนแรกก็ว่าจะไม่ทำแล้ว กำลังจะย้ายหน้าที่ไปอยู่หน้าที่อื่นจะไม่ช่วยตรงนี้แล้ว แต่เพื่อนบอกให้ช่วยอีกครั้งโดยไม่มีเหตุผลอื่น แต่ก็กลัวที่จะถูกจับ  เพราะยังไปกู้สหกรณ์ 2 ล้านบาท จะทำให้คนค้ำประกันลำบาก

 ยาที่รับมาเป็นเครือข่ายทางภาคเหนือ โดยผ่านพี่เพ็ญ ซึ่งจะรับมาจากเฮียใหญ่ ที่น่าจะอยู่พม่า ทุกครั้งที่จะลงมือ พี่เพ็ญจะบอกว่ามีงานแล้วให้เตรียมตัว จากนั้นอีก 2-3 วันก็จะลงมือ ส่วนค่าจ้างจะหาร 3 คือ พี่เพ็ญส่วน ผมส่วน และคนที่ช่วยวิ่งนำทาง ได้เฉลี่ยแต่ละครั้ง 1-2 ล้านบาท เคยได้สูงสุด 2.2 ล้าน ส่วนยาเข้ามาแต่ละครั้งไม่ได้นับ พอขึ้นรถเสร็จก็ขับออกมาเลย รีบให้เร็วที่สุด ผมมีหน้าที่เอาของใส่รถและขับจากเชียงราย มากรุงเทพฯ ทุกครั้งจะขับเอง ด.ต.มนัส กล่าว

 เมื่อถามว่าระหว่างขับเคยเจอด่านตำรวจหรือไม่นั้น ด.ต.มนัสกล่าวว่า มีรถนำทางหากเจอด่านจะหาทางหลบ หากมาไม่ได้ก็ไม่มา บางครั้งก็นอนค้าง ไม่กล้าเอาอาชีพตำรวจมาอ้างเพราะมันมองกันออก คนผิดคิดว่าตำรวจมองกันออก ส่วนที่เคยมีการชักชวนเพื่อนทำงานด้วยหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่มีใครเปิดเผยกับใคร แต่ที่เพื่อนเข้ามาชวนเพราะสนิทกัน เขาจึงถามเราว่าสนใจไหมเท่านั้น

 เมื่อถามถึงการตัดสินใจมอบตัว ด.ต.มนัสกล่าวว่า โทร.ไปปรึกษาที่บ้าน อีกอย่างทำผิดก็คิดจะมอบตัวไม่ได้คิดไปต่อสู้ นายทางนครบาล นายเวรผู้บัญชาการก็ดีตั้งใจทำงาน อย่างที่ตำรวจถูกชนก็เห็นว่ารักลูกน้อง ก็ปรึกษาที่บ้าน เลยบอกแม่มอบตัวโทร.หาแฟนว่ามอบตัว เชื่อใจนายเวรคนเดียว กับรองหลวง (พ.ต.อ.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบก.สปพ.) คนอื่นไม่เชื่อใจ รองหลวงก็บอกว่านายดีทุกคน ก็เลยโทร.ให้รองหลวงมารับ

 เมื่อถามว่ารถที่ใช้เป็นเงินจากการขนยาหรือไม่ ด.ต.มนัสกล่าวว่า ใช่ เพราะเฮียใหญ่โอนเงินให้กับพี่เพ็ญ นำเงินมาซื้อรถยนต์โดยมีแก๊งที่ทำเรื่องรถยนต์เยอะ แต่ก็ไม่ทราบว่ามาจากไหน บอกว่าให้ตนทำหน้าที่ขับรถเท่านั้น โดยอาศัยวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ บางเวรก็จ้างเพื่อน ไม่ได้ขาดงาน

 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ พร้อม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และพล.ต.อ.พงศพัศ เลขาฯ ป.ป.ส. ร่วมแถลงข่าวและอายัดทรัพย์ของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มด.ต.มนัส โดยศาลจ.ลำปางได้ออกหมายจับเพิ่มอีก 7 คน เบื้องต้นสามารถยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ได้รวม 77.77 ล้านบาท ประกอบด้วย

 1.นายธิติ เพ็งสุข ทรัพย์สินที่ยึดได้รวม 4.8 ล้านบาท ได้แก่ รถยนต์มิตซูบิชิ ทะเบียน ญฏ 2706 กทม. 1 คัน บัญชีเงินฝาก 5 บัญชี นาฬิกา 9 เรือน รถจักรยานยนต์ฮาเลย์เดวิดสัน 1 คัน ที่ดิน 1 แปลง, 2.ด.ต.มนัส รวมทรัพย์สินที่ยึดได้ 20.61 ล้านบาท ได้แก่ บ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง คอนโดซิตี้โฮม 1 ห้อง ทองคำแท่ง 20 บาท ทองรูปพรรณ 14 รายการ อาวุธปืน 1 กระบอก รถยนต์ 4 คัน ตั๋วทอง(ใบรับประกันน้ำหนัก 60 บาท) บัญชีเงินฝาก 3 บัญชี มูลค่า 366,522 บาท โฉนดที่ดิน 8 แปลง จยย. 2 คัน

 3.นายสถิต-นางบัวไข แสงหล้า ทรัพย์สินที่ยึดได้รวม 26.1 ล้านบาท ได้แก่ ทองรูปพรรณ และพระกรอบทอง 7 รายการ เครื่องใช้ไฟฟ้า 1 รายการ รถไถ 1 คัน รถแทรกเตอร์ 2 คัน รถหกล้อ 1 คัน รถตักดิน 1 คัน ที่ดิน 40 ไร่ รถจักรยานยนต์ 1 คัน, 4.นายประทิน-นางสุชาดา ทวยภา ทรัพย์สินที่ยึดได้ รวม 26.2 ล้านบาท ได้แก่รถยนต์ 1 คัน รถไถ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 1 คัน เครื่องใช้ไฟฟ้า 3 รายการ อาวุธปืน 2 กระบอก ที่ดิน 44 ไร่ พร้อมบ้าน 2 หลัง, 5.นายระพิณ คำแฝง และนายสุเทพ คำแฝง อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินในเขต อ.เมือง จ.กำแพงเพชร อีกคดี

 พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) กล่าวถึงกรณีที่พบตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดหลายคดี ในห้วงนี้ว่า ทั้งกรณีตำรวจ สน.ประชาชื่น และที่สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ นั้น พล.ต.อ.อดุลย์ย้ำในประชุม ศปก.ตร. ชมเชยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมที่แม้ทราบว่าเป็นตำรวจก็ไม่ปล่อย ยังดำเนินการถึงที่สุด ส่วนในมุมที่ตำรวจและอดีตตำรวจไปเกี่ยวข้องขบวนการยาเสพติด ผบ.ตร.สั่งการ ดำเนินการทางวินัยและปกครองทั้งหมดอย่างเต็มที่

 ตำรวจไปทำผิดเสียเอง ผบ.ตร.บอกว่า ตัดได้ต้องตัด ดำเนินการทางคดีอย่างถึงที่สุด และย้ำไปว่าให้ตรวจสอบผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นตามคำสั่งกรมตำรวจที่ 1212/2537 ที่ระบุชัดเจนในการที่ผู้บังคับบัญชาต้องดูแลเอาใจใส่ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ระดับผู้บังคับหมู่ ต้องมีรองสารวัตร สารวัตรดูแล ตามลำดับ ทุกกรณีต้องดูว่าผู้บังคับบัญชาสอดส่องต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าไม่ดูแลกันเท่าที่ควร ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย อีกทางหนึ่งขณะนี้พล.ต.อ.อัมรินทร์ อัครวงศ์ จเรตำรวจแห่งชาติ สั่งการจเรตำรวจตรวจสอบการทำงานของตำรวจทุกพื้นที่อย่างเป็นขั้นเป็นตอน อย่างกรณีที่เกิดขึ้นแล้วจะต้องตรวจสอบเอาผิดผู้บังคับบัญชาให้เห็นเป็นแบบอย่าง มีการตั้งกรรมการมาตรวจสอบแล้วŽ โฆษกตร.กล่าว 

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด