“จตุพร” ให้การคดี 91 ศพ เพิ่มเติม
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 91 ศพ จากเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองปี 2553 โดยกล่าวว่า วันนี้(24ต.ค.) ตนได้หลักฐานเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลแพ่งกรณีสงกรานต์เลือดที่มีผู้ถูกยิงและศาลมีคำพิพากษาให้กองทัพชดใช้ค่าเสียหาย โดยคำพิพากษาระบุว่าในปฏิบัติการณ์ดังกล่าวมีการใช้กระสุนจริง นอกจากนี้ยังได้นำภาพถ่ายและเอกสารที่รวบรวมรายละเอียดเหตุการณ์ไฟไหม้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวิล์ด มามอบให้พนักงานสอบสวนนำไปประกอบการพิจารณาคดี ทั้งนี้ เชื่อว่าชายชุดดำที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) นำมาภาพถ่ายมาแสดงนั้นเหมือนมีการจัดฉากเรื่องราวมาตั้งแต่ต้น เนื่องจากในช่วงดังกล่าวรัฐบาลได้ประกาศพ.ร.บ.ฉุกเฉิน ทั้งที่ยังมีไม่ความรุนแรง เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2553 ก่อนที่จะมีการใช้กำลังสลายการชุมนุมในวันที่ 10 เม.ย.2553 ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดปกติที่ต่อมามีการอ้างโทรทัศน์ต่างประเทศเผยแพร่ภาพถ่ายชายชุดดำ ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่ามีการเผยแพร่เพียงช่องเดียวหลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 3 วัน ดังนั้น ตนต้องการให้ดีเอสไอติดตามผู้สื่อข่าวที่เป็นผู้ถ่ายภาพดังกล่าวได้มาสอบถามข้อเท็จจริงรวมถึงหลักฐานกล้องวงจรปิดการเข้าออกศอฉ.ที่กองพันทหารราบที่ 11 ด้วย หากทหารมีความบริสุทธิ์ใจก็ควรให้มีการตรวจสอบ ทั้งนี้ ยืนยันว่าประเด็นชายชุดดำยังต้องพิสูจน์ให้ชัด แต่ข้อมูลที่ตนพบคือมีภาพที่มีชายชุดดำไปซุ่มยิงในบริเวณใกล้กับทหารและแฝงตัวอยู่ใกล้กับจุดที่ทหารปฏิบัติการในหลายพื้นที่ รวมทั้งวันที่พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ถูกยิงก็มีคนยิงชายชุดดำติดตามไปถึงรพ.หัวเฉียวด้วย กรณีชายชุดดำที่เป็นจินตนาการล่วงหน้า วางแผนล่วงหน้า นายอภิสิทธิ์ ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งที่ยังไม่มีการก่อการร้าย แต่มีการพล็อตเรื่องไว้ ล่วงหน้า หลังจากนั้นจึงปฏิบัติการที่สี่แยกคอกวัวและศรีอยุธยา หากสุจริตก็ไม่ควรปกปิดและนำภาพวงจรปิดมาเผยแพร่ ที่ผ่านมาเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ พยายามปั่นเรื่องชายชุดดำ ทั้งที่ไม่มีใครเคยเห็นหน้า
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะปฏิวัติอีกครั้ง นายจตุพร กล่าวว่า เป็นการพูดของคนที่นัดหมายชุมนุมที่สนามม้าคือ กลุ่มของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ. อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่สนใจการผู้ใดจะมารับหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก แต่ประชาชนพร้อมต่อสู้หากทหารปฏิบัติหน้าที่ไม่ตรงกับหน้าที่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดูท่าทีของผบ.ทบ.คนนี้จะไม่ปฏิวัติ ตนไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อการชุมนุมครั้งนี้ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ต้องทำให้การชุมนุมเป็นไปโดยสงบ ทุกกลุ่มมีสิทธิจัดชุมนุมได้ ยืนยันรัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการใช้กำลังปราบประชาชนแน่นอน
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ขบวนการโค่นล้มรัฐบาล นายจตุพร กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติเพราะรัฐบาลเข้าไปทำลายสิ่งผิดกฎหมายหลายอย่าง โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด ชะตากรรมของนายกรัฐมนตรีขณะนี้ก็เหมือนตอนปลายรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่แปลกที่กลุ่มเงินนอกระบบกลุ่มผู้มีอิทธิพลจะลงขัน แต่รัฐบาลชุดนี้ผ่านการโค่นล้นนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 3 คน ทำให้มีบทเรียนว่าจะป้องกันอย่างไร.