เซลส์แมนหึงเมีย ซัลโวสยองคารถ จ่อขมับฆ่าตัวตาม

เมื่อเวลา 00.15 น. วานนี้ (19 มี.ค.) พ.ต.ต.จรัล โคตรประทุม สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองอุดรธานี ได้รับมีเหตุยิงกันตาย 2 ศพ ที่บริเวณลานจอดรถ ใต้ถุนแกรนด์เฮาส์คอนโดเทล ถนนโพนพิสัย ต.หมากแข้ง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ชัยโรจน์ นาคราช รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อัครศร ศรีสุพัฒน์ สวป. แพทย์เวร โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ

พบรถกระบะนิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์ทอง หมายทะเบียน 3877 พิษณุโลก จอดติดเครื่องและเปิดไฟหน้ารถ ที่ประตูด้านขวาพบศพนายพงษ์พนา หรือศักดา สิงห์คำ อายุ 41 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 12 หมู่ 9 ต.ท่าอิบุญ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ในสภาพนอนศีรษะพาดกับประตูรถ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. ที่กลางศีรษะกะโหลกเปิดมันสมองกระจาย พบปืนขนาด 9 มม. ทูตมรณะตกอยู่กลางหว่างขา ภายในรถพบศพนางรัชนก พิมพ์คำ อายุ 35 ปี ภรรยานายพงษ์พนา ในสภาพนั่งคอพับคาดเข็มขัดนิรภัยบนเบาะคนขับ ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่ก้านคอด้านขวาทะลุเป้าตาขวา 1 นัด ลำคอขวาทะลุซ้าย 1 นัด ต้นแขนขวาทะลุชายโครง 2 นัด กระจกประตูรถทั้งสองด้านแตกกระจาย พบปลอกกระสุนปืน 9 มม. 5 ปลอก กับหัวกระสุน 1 หัว

นายพงษ์พนากับนางรัชนกแต่งงานอยู่กินกันมา 7 ปี มีลูกชาย 1 คน พักอยู่ห้องหมายเลข 121/7 ในคอนโดฯดังกล่าว นายพงษ์พนามีอาชีพเป็นเซลส์ขายยาของบริษัททีโอ เคมีคอลส์ (1979) จำกัด ส่วนนางรัชนกทำงานเป็นเซลส์ขายเครื่องเขียนบริษัทแห่งหนึ่ง นายพงษ์พนามีนิสัยเจ้าชู้ พัวพันกับหญิงสาวหลายคนและมักมีปากเสียงกับนางรัชนกเกี่ยวกับเรื่องหึงหวงบ่อยครั้ง ก่อนเกิดเหตุทั้งสองได้พาลูกชายไปกินข้าวข้างนอกกลับมาที่คอนโด นายพงษ์พนาได้เดินขึ้นไปส่งลูกชายที่ห้องพัก ส่วนนางรัชนกนั่งรอในรถ

เมื่อนายพงษ์พนาส่งลูกชายเสร็จได้เดินลงมาหานางรัชนก ที่รถและเกิดโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง ในลักษณะหึงหวงเรื่องนายพงษ์พนาไปติดพันหญิงอื่น ระหว่างนั้นนางรัชนกจะถอยรถขับออกไปเที่ยวต่อ แต่นายพงษ์พนาไม่ยอมให้ไป ได้ขับรถเก๋งจอดขวางไว้ นางรัชนกจึงล็อกประตูขังตัวเองอยู่ในรถ นายพงษ์พนาพยายามเรียกให้ เปิดประตูออกมาพูดคุยกัน แต่นางรัชนกไม่ยอม และนายพงษ์พนาเกิดโมโหเดินไปเอาปืนพกกระบอกดังกล่าว จากในรถเก๋งมากระหน่ำยิงนางรัชนกทะลุกระจก 4 นัดซ้อน เสียชีวิตคารถ แล้วนายพงษ์พนาตัดสินใจใช้ปืนพกกระบอกเดียวกันจ่อยิงศีรษะฆ่าตัวตายตาม

ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจที่เกิดเหตุอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของนายพงษ์พนาผู้ตายดังขึ้น เจ้าหน้าที่จึงรับสายทราบว่าเป็นผู้หญิงชื่อ ตั๊ก โทร.มาหานายพงษ์พนา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ทราบว่านายพงษ์พนาได้ ยิงตัวตายแล้ว แต่หญิงคนดังกล่าวไม่เชื่อคิดว่าพูดล้อเล่น ได้บอกให้เรียกนายพงษ์พนามารับสายและยังพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดว่า มันไม่ต้องฆ่าตัวตายหรอก เดี๋ยวกูจะไปฆ่ามันเอง เมื่อเจ้าหน้าที่ยืนยันอีกครั้งว่านายพงษ์พนายิงตัวตาย ผู้หญิงชื่อตั๊กไม่ยอมพูดต่อและรีบปิดโทรศัพท์ทันที ตำรวจสันนิษฐานว่านายพงษ์พนาคงจะไปติดพันหญิงอื่น ทำให้เกิดปัญหาทะเลาะกับภรรยาอย่างรุนแรง และลุกลามบานปลายถึงขั้นใช้อาวุธปืนตัดสินปัญหาจบชีวิตไปด้วยกันทั้งสองคน