ตร.เจอพยานพม่าฆ่า2ผัวเมียแล้วเค้นสอบซัดหมอสุพัฒน์

พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่า ตามที่ตนเองและพนักงานสอบสวนในคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยาชาว จ.เพชรบุรี ที่มี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ตกเป็นผู้ต้องหา ได้เดินทางไปสอบปากคำพยานชาวพม่า ที่เคยเป็นคนงานในไร่ของ นพ.สุพัฒน์ โดยพนักงานสอบสวน เพิ่งได้เจอตัว เมื่อเช้าวันนี้ (15 ต.ค.) จำนวน 1 ราย และทำการสอบถามเบื้องต้นแล้ว ซึ่งให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก โดยในวันนี้จะนำตัวพยานคนดังกล่าว ที่ขอสงวนชื่อมาสอบสวนอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อสอบสวนเสร็จ คณะพนักงานสอบสวน ก็จะเดินทางกลับที่ จ.เพชรบุรี ทันที  ส่วนพยานคนดังกล่าว จะไม่นำตัวกลับไปด้วย เนื่องจาก ต้องทำงานประจำอยู่ และสามารถติดต่อได้ หากต้องนำตัวมาเป็นพยานในครั้งต่อไป

ผบช.ภ 7พบ2พม่าทำงานไร่หมอสุพัฒน์แล้ว

พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวถึง การติดตามพยาน ซึ่งเป็นชาวพม่า 2 คน ที่เคยทำงานในไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ว่า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลว่า ชาวพม่าทั้ง 2 คนนั้น 1 คน เดินทางกลับประเทศพม่าแล้ว ส่วนอีกคน ยังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ ฝ่ายสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 สามารถติดต่อ ทั้ง 2 คนได้แล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาให้ข้อมูล คาดว่า น่าจะใช้เวลาอีกสักระยะ  ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถทำการสอบปากคำพยานทั้ง 2 ปาก ได้แล้ว จะมีการประชุมร่วมของ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ว่า มีข้อมูลหลักฐานเพียงพอ ที่จะแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่น กับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้หรือไม่ ซึ่งหากมีหลักฐานเพียงพอ ก็จะไปยื่นขออำนาจศาล ออกหมายจับ ในข้อหาดังกล่าว และไปแจ้งข้อหาเพิ่มได้ทันที เพราะตัว พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ อยู่ในเรือนจำอยู่แล้ว

นอกจากนี้ กรณีที่ ฝ่ายอดีตทนายความประจำครอบครัวของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มีการกล่าวอ้างในทำนองว่า นายสามารถ นุ่มจุ้ย, น.ส.วิลสา จันทรบัญชร 2 สามีภรรยา ที่หายตัวไป เพราะหนีคดียาเสพติด รวมถึง นายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของ นายสามารถ ก็มีประวัติพัวพันกับยาเสพติดด้วยนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ระบุว่า เป็นการตอบโต้ของอีกฝ่าย ซึ่งตนได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่ ตรวจสอบประวัติบุคคลทั้งหมดแล้ว พบว่า ไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเป็นผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใด