แจ้งจับอจ.ข่มขืนศิษย์ถ่ายคลิปแฉ

นักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยดังฮือไล่อาจารย์ชายฉาวลวนลาม-ข่มขืน บีบแลกเกรด ซ้อนแผนถ่ายคลิปแฉพฤติกรรม ก่อนรวมตัวโร่แจ้งความ ตร.ตั้งข้อหาหนัก


เหตการณ์นักศึกษาสุดทนฮือไล่อาจารย์ครั้งนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ตุลาคม อาจารย์คณะครุศาสตร์ สาขาศิลปกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งหนึ่งพานักศึกษาหญิงในคณะรวม 4 คน อายุระหว่าง 19-22 ปี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.หญิงนพวรรณ พยัฆพรม พนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือ เพื่อให้ดำเนินคดีอาจารย์ชายคนหนึ่งในมหาวิทยาลัย หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักศึกษาหญิงหลายคนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมชอบพูดจาเชิงชู้สาว และลวนลาม รวมไปถึงเคยข่มขืนนักศึกษาบางคน โดยการร้องเรียนครั้งนี้มี พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.นพรัตน์ สินมา ผกก.สน.บางยี่เรือ พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล สว.สส. ร่วมสอบสวนด้วย


นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คนหนึ่งกล่าวอ้างว่า เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. แฟนหนุ่มโทรศัพท์บอกว่า อาจารย์ชายคนดังกล่าวเรียกไปพบที่ห้องพักย่านพรานนก โดยอาจารย์ฝากบอกแฟนหนุ่มว่า ต้องไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นแฟนจะมีปัญหาเรื่องผลการเรียน จึงรีบออกไปพบ  เมื่อไปถึงพบอาจารย์อยู่ในสภาพคล้ายกับคนเมาสุรา จากนั้นได้เข้ามาลวนลาม ก่อนจะข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ พร้อมกับขู่ไม่ให้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นไปกับใคร หากไม่เชื่อฟังจะมีปัญหาเรื่องการเรียน
       

"สาเหตุที่มาแจ้งความในวันนี้ แม้เวลาผ่านไป 2 ปี เพราะตอนเกิดเหตุยังเรียนวิชานี้อยู่ จึงไม่กล้ามาแจ้งความ เนื่องจากกลัวว่าจะเกิดปัญหา แต่ตอนนี้ใกล้จบการศึกษาจึงกล้ามา ส่วนที่ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะไม่อยากให้รุ่นน้องต้องเจอกับเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ซ้ำรอยอีก" นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 4 กล่าวอ้าง
       

ขณะที่นักศึกษาอีกคน ให้การว่า กลุ่มเพื่อนที่มาแจ้งความถูกอาจารย์ชายลวนลาม และพูดจาในเชิงชู้สาว โดยเมื่อปีที่ผ่านมาขณะนั่งรถทัวร์ไปแสดงกิจกรรมซึ่งอาจารย์คนดังกล่าวไปรับงานมาใน จ.เชียงราย เมื่อการแสดงเสร็จสิ้นระหว่างกลับกรุงเทพฯ อาจารย์คนดังกล่าวดื่มสุราและมีอาการมึนเมา จากนั้นได้เข้ามานั่งคู่ตีสนิท ก่อนจะพูดจาลวนลามใช้มือสัมผัสตามร่างกาย เมื่อบ่ายเบี่ยง อาจารย์จะโมโห และบังคับไม่ให้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง หากไม่เชื่อจะมีผลกระทบต่อการเรียน ทำให้ต้องเก็บเรื่องนี้มานาน  
 
     
พ.ต.อ.จีระศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังรับร้องเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาอาจารย์ชายในข้อหาข่มขืนผู้อื่นโดยมิใช่ภรรยาของตนเอง จากนั้นพนักงานสอบสวนจะทำเรื่องส่งสำนวนกรณีที่นักศึกษาถูกข่มขืนไปยัง สน.บางกอกน้อย ก่อนจะประสานให้ออกหมายจับอาจารย์คนดังกล่าวต่อไป
 
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่นักศึกษาจะเข้าแจ้งความต่อตำรวจ กลุ่มนักศึกษาประมาณ 50 คนได้รวมตัวประท้วงอาจารย์คนดังกล่าวที่บริเวณด้านหน้าตึกอธิการบดี พร้อมติดแผ่นใบปลิวแสดงถึงพฤติการณ์ของอาจารย์ชาย ระหว่างนั้นกลุ่มอาจารย์ได้เข้าไปเจรจาขอร้องนักศึกษาให้ยกเลิกการชุมนุม ก่อนจะพาเข้าแจ้งความดังกล่าว 
 
      
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก" สอบถามนักศึกษาชายชั้นปีที่ 4  มหาวิทยาลัยดังกล่าว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยได้ยินพฤติการณ์ของอาจารย์ชาย แต่ไม่เชื่อ เพราะอาจจะเป็นการกลั่นแกล้งจากกลุ่มนักศึกษาที่ไม่ชอบ แต่ต่อมาได้มาเห็นคลิปภาพจากโทรศัพท์มือถือของเพื่อนนักศึกษาหญิงที่เสียหาย ซึ่งเป็นภาพอาจารย์ชายคนดังกล่าวนัดหมาย 2 นักศึกษาสาวผู้เสียหายไปพบที่สถานที่แห่งหนึ่ง โดยนักศึกษาหญิงได้เข้าไปพบอาจารย์ชายตามลำพัง แต่ให้เพื่อนคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ เนื่องจากไม่ไว้ใจพฤติการณ์ของอาจารย์ชายคนนี้  
 
      
"ภาพที่ผมเห็นในโทรศัพท์มือถือคืออาจารย์ชายได้แสดงท่าทีเหมือนจะเข้ามาโอบกอดเอว ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จับที่ใบหน้า โดยนักศึกษาหญิงพยายามเบี่ยงตัวหลบ ต่อมาเพื่อนอีกคนเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเข้ามาช่วย หลังเกิดเหตุนักศึกษาหญิงคนนี้ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง เพราะกลัวจะไม่มีใครเชื่อ และกลัวว่าจะเรียนที่มหาวิทยาลัยไม่ได้ แม้กระทั่งพ่อแม่ยังไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่ในที่สุดเริ่มมีนักศึกษาหลายคนโดนลวนลามเหมือนกัน จึงรวมตัวกันต่อต้าน และอยากให้ลงโทษอาจารย์ชายคนนี้" นักศึกษาชายกล่าว 

     
นักศึกษาชาย กล่าวต่อว่า อาจารย์ชายคนดังกล่าวจะเลือกพูดคุยกับนักศึกษาหน้าตาดี โดยจะเข้าไปพูดคุยตีสนิท ขอเบอร์โทรศัพท์ พร้อมอ้างว่า เวลาไม่มาสอนจะได้ติดต่อเพื่อแจ้งกับเพื่อนนักศึกษาจะได้ไม่เสียเวลา ทำให้นักศึกษาหญิงหลงเชื่อยอมให้เบอร์โทรศัพท์ หลังจากนั้นอาจารย์จะโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาตลอด ช่วงแรกจะคุยเรื่องเรียน สุดท้ายจะชักชวนไปดูหนัง กินข้าวตามลำพัง หากนักศึกษาไม่ไป อาจารย์จะเอาเรื่องเรียน เรื่องเกรดมาข่มขู่ ส่วนตัวหากดูภายนอกเห็นว่า อาจารย์คนนี้ดูดี แต่งตัวสุภาพ พูดจาดี ไม่น่าจะมีพฤติการณ์อย่างนี้ เชื่อว่า มีนักศึกษาหลายคนตกเป็นเหยื่อแต่ไม่กล้าแจ้งความ หรือบอกให้ใครรับรู้ ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ในมหาวิทยาลัยจะแก้ไขอย่างไร