พ่อสามารถหวั่นไม่ปลอดภัยหากหมอ-สุพัฒน์ได้ประกันตัว
นายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของ นายสามารถ นุ่มจุ้ย ที่หายตัวปริศนาพร้อมกับ น.ส.อรสา เกิดทรัพย์ ลูกสะใภ้ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทางครอบครัวรู้สึกกังวลใจมากขึ้น หาก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ผู้ต้องหาในคดีการหายตัวไปของลูกชายตนเอง ได้ประกันตัว หรือครบกำหนดฝากขัง 4 ผลัด ตามกฎหมายออกมา เนื่องจากผู้ต้องหามีอิทธิพล และบารมีในพื้นที่มาก เกรงจะไม่ปลอดภัย รวมถึงพยานในคดีนี้ด้วย ส่วนการที่ตำรวจหยุดขุดค้นไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ หลังจากศาลอนุญาตให้ขุดถึงเมื่อวานนี้ ก็เช่นเดียวกัน เพราะยังไม่เจอศพลูกชายและลูกสะใภ้ แต่ส่วนตัวคิดว่า ศพลูกชาย ลูกสะใภ้ยังอยู่ในไร่ดังกล่าวแน่ แต่ก็ยังติดใจบ้านที่ จ.นนทบุรี ที่พบรถลูกชายจอดอยู่ ว่าอาจจะถูกฝังอยู่ก็ได้ ต่อจากนี้คงจะต้องปรึกษากับตำรวจเจ้าของคดีอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนเองหวังแค่ว่า ตำรวจจะเร่งแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาใน ข้อหาฆ่า นายต้า ชาวพม่า โดยเร็ว เพื่อเพิ่มน้ำหนักทางคดีอีกทางหนึ่ง
ส่วนในวันนี้เวลา 13.30 น. ตนเองและญาติ จะมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายกสภาทนายความ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ตรวจสำนวนคดี และช่วยว่าความในคดีที่ฟ้องหมิ่นประมาท พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และทนายความ ด้วยเช่นกัน
ตร.ยังไม่เพิ่มข้อหาฆ่าคนตายหมอสุพัฒน์
พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยา จ.เพชรบุรี ที่โยงใยกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหวัฒนะ เปิดเผย ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ออกหมายจับและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในกรณีฆ่าคนตาย หลังจากผลดีเอ็นเอโครงกระดูกออกมาแล้วว่า เป็นนาย "อีต้า" ชาวพม่าแน่นอน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีการหายตัวไปของ 2 สามีภรรยา ดังนั้น พนักงานสอบสวน จะต้องประชุมเพื่อสรุปสำนวนและหลักฐานอีกครั้งหนึ่ง โดยตนเองจะนัดประชุม พนักงานสอบสวนทั้งหมดในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง ก่อนจะดำเนินการต่อไป เนื่องจาก คดีใหม่นี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องรอบคอบ ดังนั้น หลักฐานจะต้องแน่นหนามากที่สุดด้วย
ส่วนกรณีที่ยังไม่พบศพของ 2 สามีภรรยานั้น ทางตำรวจจะไม่ละความพยายาม จะต้องสืบหาต่อว่า ถูกฝังไว้ที่ไหนกันแน่ ส่วนที่ว่าอาจจะมาฝังไว้ที่บ้านใน จ.นนทบุรี ที่พบรถยนต์ในครั้งแรกนั้น ไม่น่าเป็นไปได้ ดังนั้นจะไม่มีการไปขุดหาศพที่บ้านหลังดังกล่าวแน่