เมียเหลือเฟือยันถูกซ้อม!!

 เมีย 'เหลือเฟือ' ยันถูกซ้อม ปัดถอนแจ้งความ ลั่นขอดำเนินการตามกฎหมาย ระบุเตรียมหอบเสื้อผ้ากลับบ้านเกิด


10 ต.ค.55จากกรณีที่ น.ส.ตรีทิพยนิภา โนจา อายุ 28 ปี อาชีพแม่บ้าน ภรรยาเหลือเฟือ มกจ๊ก พร้อมด้วย ด.ช.มิกซ์ อายุ 4 ปี บุตรชาย เดินทางเข้าพบนางปวีณา หงสกุล  ประธาน "มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี" และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกรณีถูกนายเจมศักดิ์ แจ้งทิพย์นาง หรือ เหลือเฟือ  มกจ๊ก อาชีพนักแสดงและตลกชื่อดัง สามี ทำร้ายร่างกายโดยการทุบตีทำร้ายร่างกายรายวันไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค.55 ที่ผ่านมานั้น ขณะที่ฝ่ายนายเหลือเฟือก็ออกมาปฎิเสธข่าวอย่างสิ้นเชิง


ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ น.ส.ตรีทิพยนิภา โนจา ทางโทรศัพท์อีกครั้งถึงเรื่องดังกล่าวโดย น.ส.ตรีทิพยนิภา เปิดเผยว่าหลังจากที่นายเจมศักดิ์ แจ้งทิพย์นาง หรือ เหลือเฟือ มกจ๊ก ได้แถลงข่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่าไม่ได้ทำร้ายตนเองนั้น ตนขอให้นายเหลือเฟือ ยอมรับความจริงซะเถอะเพราะแผลที่เกิดนั้นไม่ได้เกิดจากการตกบันได โดยตนขอยืนยันแต่เป็นมันเกิดจากนายเหลือเฟือ ได้ทำร้ายร่างกายจริงๆเหตุเกิดเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งเขาเป็นคนทำร้ายตนเองและยังให้ลูกมาโกหกอีกว่าตนเองนั้นตกบันได ทั้งที่ตอนตนเองถูกทำร้ายจนเกิดแผลขึ้นลูกของนายเหลือเฟือฯเองนั้นแหลาะที่เอาสำลีและเอลกอฮอล์มาล้างทำความสะอาดแผลให้แก่ตนด้วยซ้ำ


น.ส.ตรีทิพยนิภา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตนขอให้นายเหลือเฟือนั้นหยุดเถอะคะ เนื่องจากสังคมเขารู้แล้วว่ามันคืออะไร ตนไม่ใช่ดารา ไม่ใช้นักแสดง ไม่สามารถที่จะไปเล่นละครตบตาหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศและไม่สามารถนำเอาเรื่องโกหกไปหลอกลวงท่านปวีณา หงสกุล ประธาน “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หลอกแต่ตัวของนายเหลือเฟือเองนั้นแหละจะแย่เอง ที่นำเอาเรื่องโกหกไปหลอกลวงประชาชนทั้งประเทศ อีกทั้งเรื่องที่นายเหลือเฟือออกมาพูดถึงเรื่องการให้เงินตนเองใช้นั้น ตนขอยืนยันว่าที่ผ่านมาตนเองพูดแต่ความจริงมาโดยตลอด ตลอดจนเรื่องราวที่ตนเองได้แสดงความรู้สึกผ่านทางเฟซบุ๊กของตนเองนั้นก็มีตัดพ้อบ้างในบางครั้ง เนื่องจากสามีไม่กลับบ้าน แต่ว่าตนจะพูดแต่เรื่องจริงผ่านทางเฟซบุ๊ก ที่มีแต่เพื่อนๆของตนเองและเพื่อนๆของตนก็จะรู้ว่าตนระบายออกไปมีแต่เรืองจริงๆ


น.ส.ตรีทิพยนิภา กล่าวอีกว่า ต่อไปนี้ชีวิตที่เหลืออยู่จะไม่กลับไปคืนดีกับนายเหลือเฟืออีกอย่างแน่นอน แม้ว่านายเหลือเฟือเองจะมาง้อขอคืนดีก็ตาม ตนจะขอใช้ชีวิตต่อจากนี้ทำเพื่อแม่ ทำเพื่อลูก ยังดีกว่าไปฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนเดียวที่คิดไม่ซื่อและใช้ความรุนแรงแก่ตนมาโดยตลอด หากฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ที่วันๆอยู่แต่สังคมภายนอกกินเที่ยวมาตลอดไม่หันมาดูแลเมียและลูกตนเองได้แต่นอนร้องไห้ทุกคืน แม้กระทั่งเคยคิดฆ่าตัวตายหากว่าตนเองไม่มีลูกก็คงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว แต่ก็หันกลับมาดูหน้าลูก ดูหน้าแม่เราก็คิดได้ว่าเราต้องสู้ต่อไป และคาดว่าตนเองจะกลับไปหางานทำที่บ้านเกิดจังหวัดเชียงใหม่ในอีกไม่กี่วันนี้ เนื่องจากยังมีเงินไม่พอในเรื่องของค่าเดินทาง ทั้งนี้สำหรับเรื่องที่มีกระแสข่าวออกมาว่าตนเองได้ไปถอนแจ้งความไปแล้วนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยให้ดำเนินการไปตามกระบวนการของกฏหมายต่อไป