หมอสุพัฒน์ตัดพ้อตร.หาช่องแจ้งข้อหา

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


ลูกชายหมอสุพัฒน์เข้าเยี่ยมพ่อในเรือนจำ เผยกำลังป่วยจากโรคเบาหวานต้องกินยาอยู่ตลอด ด้านพ่อร่อนจดหมายเปิดผนึกตัดพ้อตำรวจพยายามหาช่องเล่นงานทางคดี
               
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 8  ต.ค. นายเอก เลาหะวัฒนะ  บุตรชาย  พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาอุ้มฆ่าสองสามีภรรยา ได้เข้าเยี่ยม พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ที่เรือนจำกลางเพชรบุรี โดยใช้เวลาเข้าเยี่ยมนานกว่าชั่วโมง จึงเดินทางออกมาพร้อมกระดาษที่เขียนด้วยลายมือของบิดามาแจกจ่ายให้สื่อมวลชนที่ด้านหน้าเรือนจำ  
 
นายเอก กล่าวว่า ขณะนี้บิดาป่วยเป็นโรคเบาหวานต้องกินยาตลอด  และเล่าให้ตนฟังว่าเป็นห่วงและกังวลเกี่ยวกับเรื่องคดี   โดยเห็นว่าพนักงานสอบสวนน่าจะสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีให้สมบูรณ์ และมาแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้กระทำความผิด  เพื่อที่จะให้บิดาตนได้ต่อสู้ตามขั้นตอน  แต่ตอนนี้กลับเป็นว่าพนักงานสอบสวนพยายามที่จะรวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแบบรายวัน ทำให้เป็นปัญหาในการสู้คดี

"คุณพ่อมองว่าท่านไม่ได้รับความยุติธรรม ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าผมเป็นคนขับรถยนต์ของนายสามารถ   นุ่มจุ้ย  ไปไว้ที่บ้านที่พบรถยนต์จอดอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี  ไม่เป็นความจริง ทุกคนทราบดีว่าผมไม่เคยเดินทางไปที่ไร่ของพ่อเลย  เรื่องนี้มีพยานยืนยันอยู่แล้ว ซึ่งไม่ทราบว่าตำรวจนำผมเข้าไปเกี่ยวโยงได้อย่างไร รถยนต์คันที่พบในบ้านที่จังหวัดนนทบุรีก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนนำไปไว้ ยืนยันว่าผมไม่เคยไปทั้งที่ไร่ของพ่อและที่บ้านที่พบรถยนต์เลย ส่วนนางวิลสา จันทรบัญชร  เคยพบเจอพูดคุยกันบ้างแต่ช่วงหลังได้แยกบ้านกันอยู่จึงไม่ได้พบกันอีก" นายเอก กล่าวและว่า พร้อมหากตำรวจจะเรียกตนไปให้ปากคำ ขณะเดียวกันหลังจากเข้าเยี่ยมพ่อ พ่อได้ฝากจดหมายที่บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ขอมอบให้กับสื่อมวลชนได้นำมาเปิดเผยความจริง
                
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาในจดหมายของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องขออนุบาลมารดาต่อศาล พร้อมกับกล่าวหาพี่ชาย และได้ชี้แจงกรณีที่มีอาวุธปืนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นนักกีฬายิงปืนมาตั้งแต่ 2533 ทดสอบอาวุธปืนจนได้เหรียญทองของตำรวจ นอกจากนั้นยังเป็นประธานกีฬายิงปืน4 เหล่าถึง 4 สมัย สามารถตรวจสอบได้ พร้อมกับยืนยันว่า การพิจารณาว่าตนเป็นผู้ผิดโดยจับตัวไปขังคุกไม่ให้ประกัน แล้วแจ้งข้อหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ให้โอกาสนำพยานหลักฐานมาแสดงนั้นไม่เป็นการยุติธรรม การพิจารณาว่าใครเป็นคนดี-เลว ต้องดูพฤติกรรมเดิม ตนพร้อมให้ตรวจสอบประวัติว่ามีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือไม่ รับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด ทุ่มเทความรู้และเรียวแรงเพื่อผู้ป่วยหรือไม่ ได้รับการยอมรับจากบุคคลากรในองค์กรเลือกให้เป็นประธานองค์กรแพทย์จริงหรือไม่
 
นางสาววิมล นุ่มจุ้ย พี่สาวนายสามารถ นุ่มจุ้ย   กล่าวว่า เวลา 11.00 น.  ได้รับการประสานงานจากโรงพยาลตำรวจได้เรียกตัวเข้าชี้แจง กรณีนายพลเทพ พลวิเชียร ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.อ. น.พ.าสุพัฒน์ยื่นเรื่องร้องเรียนเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ขอให้สอบวินัยเนื่องจากกล่าวหาว่าเป็นผู้มีส่วนรู้เห็นกับการหายตัวไปของนายสามารถและนางสาวอรษา เกิดทรัพย์ พร้อมอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกาย โดยเชื่อว่านายสว่าง นุ่มจุ้ย ผู้เป็นพ่อ จ้างวานให้ไปทำร้ายร่างกาย  จึงได้ชี้แจงว่ามีหลักฐานยืนยันว่านายพลเทพให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุว่า 2 สามี-ภรรยาหลบหนีไปอยู่พม่า

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์