อุกฤษแนะใช้เทคโนโลยีคุมนักโทษ
'อุกฤษ' แนะ 'ราชทัณฑ์' ใช้เทคโนโลยี 'มิกเซอร์' แก้ปัญหานักโทษค้ายาในเรือนจำ จี้ใช้กำไลข้อมืออิเลคทรอนิกส์คุมขังในบ้าน แก้ปัญหาล้นคุก
4 ต.ค.55 นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) เสนอแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือนจำด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกว่า "มิกเซอร์" (MIXCIR) มาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาการลักลอบนำยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือเข้าไปเพื่อใช้เป็นเครื่องมือการสั่งซื้อขายยาเสพติดทั้งภายในและนอกเรือนจำ รวมทั้งการควบคุมหรือจัดการผู้ต้องขังในเรือนจำทั้ง 140 แห่งทั่วประเทศ
นาย อุกฤษ กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีผสมเพื่อนำมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวประกอบด้วยระบบ”Metal detector”เพื่อใช้หาสิ่งแปลกปลอมประเภทโลหะสำหรับตรวจค้นอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือหรือสิ่งผิดกฎหมาย การใช้ไอออนสแกนแบบพกพา (Ion Mobility Spectrometry) เพื่อตรวจค้นยาเสพติดในเรือนนอนผู้ต้องขังแทนการใช้เจ้าหน้าที่อย่างเดียว ระบบ X-Ray มาตรวจค้นสารเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ในร่างกาย อาหารและในบรรจุภัณฑ์ต่างๆ การใช้กล้องซีซีทีวี(CCTV) มาช่วยตรวจสอบเรือนจำที่มีสภาพภายนอกแวดล้อมด้วยพื้นที่ป่า เพื่อช่วยแก้ปัญหาการโยนหรือยิงสารเสพติดเข้าไปเรือนจำ และ เทคโนโลยี Intercept ที่นำมาใช้ในการดูดสัญญาณโทรศัพท์มาใช้แทนการตัดระบบสัญญาณโทรศัพท์ (Jammer) เพื่อป้องกันการฟ้องร้องในคดีละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
และสุดท้ายเป็นการนำระบบติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ต้องขัง ที่เรียกว่า “RFID” ซึ่งเป็นการควบคุมหรือจำกัดบริเวณผ่านกำไลข้อมือหรือกำไลข้อเท้าอิเลคทรอนิสก์ แทนระบบโซ่ตรวนซึ่งอาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
“ระบบติดตามผู้ต้องขังแบบ “RFID”หรือ Electronic Monitoring มาใช้ควบคุมผู้ต้องขังแบบแยกข้อหาความผิดหรือกำหนดพื้นที่ของผู้ต้องขังแต่ละคนได้และหากจะทำเทคโนโลยีนี้มาใช้ประกอบกับมาตรการปล่องตัวชั่วคราวหรือการคุมประพฤติเพื่อแก้ไขปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำก็ย่อมทำได้ เชื่อว่าการประยุกต์ใช้เครื่องมือดังกล่าวร่วมกันจะทำให้แก้ปัญหาได้
อย่างไรก็ตามขอแนะนำว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะต้องใช้งบประมาณและเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้และเชี่ยวชาญในการใช้พอสมควร ดังนั้นกรมราชทัณฑ์จึงควรใช้ระบบเช่า หรือเช่าซื้อ เพื่อทางราชการไม่ต้องดูแลรักษาเอง และยังสามารถติดตั้งระบบทั้งหมดได้อย่างทั่วถึง ด้วยงบที่ไม่สูงเกินไปนัก”นายอุกฤษ กล่าว