บุกสาดน้ำยาล้างห้องน้ำปลัดเทศบาลแค้นกิ๊กหลานสาว

เมื่อเวลา 10.10 น.วันนี้(3ต.ค.) พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปิ่นแก้ว สารวัตรเวร สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปในห้องทำงานปลัดเทศบาลตำบลฉลอง หมู่ 4 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต แล้วใช้น้ำซึ่งเป็นสารเคมีสาใส่ใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบพนักงานเทศบาลได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อนายมณเฑียร หอมสนิท อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่87/2 หมู่ 3 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี อาชีพผู้รับเหมางานก่อสร้างไว้ได้  จากนั้นขึ้นไปตรวจสอบชั้น 2 หน้าห้องทำงานของนายวุฒิพงษ์ พรหมทวี ปลัดเทศบาลตำบลฉลอง ซึ่งเป็นโต๊ะทำงาน น.ส. เบญจวรรณ เหล่าสู่ยงค์ อายุ 31 ปี เลขานุการ มีเอกสารและสิ่งของกระจัดกระจายตกทั่วพื้น จากการต่อสู้

จากนั้นเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของนายวุฒิพงษ์ ได้มีกลิ่นเหม็นเหมือนกลิ่นไฮเตอร์ กับกลิ่นน้ำยาล้างห้องน้ำ เหม็นคละคลุ้ง แสบจมูก

ส่วนสภาพห้องข้าวของกระจัดกระจายคล้ายมีการต่อสู้เช่นกัน จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน  เบื้องต้นทราบว่านายวุฒิพงษ์ ถูกนำยาเคมีสาดบริเวณใบหน้าบาดเจ็บ รวมถึงถูกชกต่อยหน้าบวมปูด ส่วนน.ส.เบญจวรรณ บาดเจ็บถูกชกต่อยหน้าบวมปูด พนักงานของเทศบาล ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลสิริโรจน์  แล้ว

จากการสอบสวน น.ส.เบญจวรรณ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายวุฒิพงษ์  เข้ามาทำงานตามปกติ

ระหว่างนั้นนายมณเฑียร ผู้ต้องหา เดินถือแก้วน้ำร้านสะดวกซื้อเข้ามาถามห้องปลัด โดยแจ้งว่านัดหมายติดต่อพูดคุยเรื่องแบบโครงการก่อสร้างที่เคยยื่นไว้  เลยไม่ได้เอะใจ ก่อนเข้าไปบอกปลัดว่ามีคนที่นัดไว้มาหา จากนั้นนายมณเฑียร เดินตามเข้ามาสาดน้ำในแก้วใส่ใบหน้านายวุฒิพงษ์ อย่างจัง จนทรุดลงไปดิ้นกับพื้นห้อง นายมณเฑียรยังไม่หนำใจพุ่งเข้าไปชกใบหน้าปลัดอีกหลายครั้ง ได้รับบาดเจ็บ ตนเห็นจึงวิ่งเข้าไปช่วยก็ถูกชกที่ใบหน้าด้วย จากนั้นพนักงานของเทศบาลได้เข้ามาช่วยจับตัวนายมณเฑียรไว้ได้

ด้านนายมณเฑียร ซึ่งอยู่ในอาการเครียด อ้างว่า  ปลัดคนดังกล่าวแอบมีสัมพันธ์กับหลานสาว เมื่อทราบเรื่องจึงเดินทางมาจาก จ.จันทบุรี
 
เพื่อมาทำร้ายเนื่องจากโกรธแค้น โดยก่อนลงมือได้ซื้อแก้วเครื่องดื่มขนาดใหญ่จากร้านสะดวกซื้อ แล้วเอาน้ำยาล้างห้องน้ำที่วางอยู่ในห้องน้ำสำนักงานเทศบาลฉลอง ใส่ในแก้วน้ำก่อนผสมน้ำเล็กน้อย ถือเข้าไปสาดใส่หน้าปลัดแต่ไม่หนำใจเลยชกต่อยเข้าไปอีก เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
 

ขณะที่นายวุฒิพงษ์   กล่าวว่า มาอยู่ภูเก็ตประมาณ 10 ปี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร

 ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดมาจากความขัดแย้งเรื่องการทำงานในองค์กร มีลูกน้องบางคนไม่พอใจที่ตนไปขัดกฎระเบียบบางข้อที่มองว่าไม่ถูกต้อง หากปล่อยไปอาจจะเกิดความเสียหายต่อฝ่ายบริหาร อาจถึงขั้นถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) มาตรวจสอบได้ เลยทำให้ลูกน้องบางคนไม่พอใจ

ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาบอกว่าตนไปมีความสัมพันธ์ทางชู้สาวกับหลานของเขานั้น เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระอย่างสิ้นเชิง
 
เป็นการกล่าวอ้างให้ตนเสียชื่อเสียงทางสังคมมากกว่า เพราะยืนยันไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้น อยู่กับภรรยาตลอดเวลา กินข้าววันละ 3 มื้อ ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ตนเป็นคนรักครอบครัว ทั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าหลานผู้ต้องหาที่กล่าวอ้างมีตัวตนจริงหรือไม่ หากมีจริงก็นำมายืนยัน เพราะตนบริสุทธิ์ ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวกับใคร  ทั้งนี้ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นกับนายอำเภอเมืองภูเก็ตให้ทราบแล้ว และให้ลูกน้องทำหนังสือรายงานให้นายกเทศบาลฉลอง ทราบตามระเบียบ ส่วนอาการในขณะนี้ยังมีการระคายเคืองตา ใบหน้าบวม และหมอนัดตรวจสอบอาการข้างเคียงอีกครั้งในวันพรุ่งนี้