จับม.ล.เก๊นักตุ๋น-สากทุบหัวเหยื่อ

เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 12 ก.พ. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร ผบก.ป. พ.ต.อ.อนุชัย เล็กบำรุง พ.ต.อ.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง รองผบก.ป. พ.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ผกก.5 ป. ร่วมแถลงการจับกุมนายไพศาล เทพประทาน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/16 ซอยนาคราช แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม.

ตามหมายจับศาลอาญาที่ 418/2550


ลงวันที่ 10 ก.พ.2550 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น ปลอมเอกสารราชการ ปลอมรอยตราประทับของทบวงการเมือง และฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น พร้อมของกลางบัตรข้าราชการสังกัดต่างๆซึ่งเป็นของปลอมจำนวนมาก หนังสือรับรองเงินเดือน ตราประทับที่มีการอ้างชื่อผู้ใหญ่ในสังคมชั้นสูง บัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ รวม 38 รายการ โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 63/8 หมู่ 4 หมู่บ้านเสนานิเวศน์ ซอย 115 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม.

พล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา น.ส.วัฒนา ประสานพรรณ์ อายุ 74 ปี อดีตศึกษานิเทศก์ 6 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามว่า ถูกผู้ต้องหาดังกล่าวแอบอ้างตนเป็นแพทย์หลวง จากสภากาชาดไทย หลอกเอาทรัพย์สินไปหลายล้านบาท โดยเริ่มรู้จักกับนายไพศาล ตั้งแต่ปี 2530 ขณะนั้นนายไพศาลบวชเป็นพระ ใช้ชื่อพระครูโลกอุดร ซึ่งมีวัตรปฏิบัติดีจนทำให้เป็นที่เลื่อมใสของลูกศิษย์ นอกจากนี้ยังอวดอ้างเป็นแพทย์ มีเชื้อสายเจ้านายชั้นสูงที่มีความสนใจทางธรรมก่อนออกบวชด้วย


ผบก.ป.กล่าวต่อไปว่า


ต่อมานายไพศาลได้ลาสิกขา และน.ส.วัฒนาก็ให้ความอุปการะมาตลอด ปรากฏว่าระหว่างนั้นนายไพศาลจะชอบชักชวนให้ร่วมบริจาคการกุศลหลายครั้งหลายรายการ ทำให้สูญเสียทรัพย์สินไปกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งมาทราบภายหลังว่านายไพศาลนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง บางครั้งเมื่อน.ส.วัฒนาไม่ทำตามที่นายไพศาลต้องการ ก็ถูกทำร้ายด้วยไม้ตีพริกหลายครั้ง ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2530-ก.พ.2550 ในที่สุดน.ส.วัฒนาเริ่มสงสัยในพฤติกรรม จึงเข้าแจ้งความที่กองปราบปราม หลังรับแจ้งชุดสืบสวนกก.5 บก.ป.ได้ติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาจนพบหลักฐานชัดเจน และขออนุมัติหมายศาลเข้าจับกุมดังกล่าว และยังทราบว่ามีผู้เสียหายเป็นทั้งข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ เคยถูกนายไพศาลหลอกอีกหลายราย

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้ มักจะแอบอ้างว่าตนเองเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันดีในวงสังคมชั้นสูง ชอบทำตัวมีฐานะดี เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อ โดยมักจะแสดงบัตรประจำตัวข้าราชการปลอม ระบุชื่อต่างๆ เช่นม.ล.ยุวากร กิติยากร,ม.ล.ชาครีย์ กิติยากร,ม.ล.สิวาทย์ กิติยากร,ม.ล.พิน กิติยากร,นายวามิน สารสิน,นายณุ เทวกุล,นายทักษิณ บุนนาค,นายขรรค์ รองราชย์ และนายธันวา อิงคะวัติ คาดว่าน่าจะหลอกลวงผู้เสียหายมาแล้วหลายราย ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นนายไพศาลให้การรับสารภาพว่า จบการศึกษาแค่ชั้นประถม 6 จากนั้นไปบวชเณรจนครบเกณฑ์บวชพระ และออกเดินธุดงค์ไปหลายที่ จนสึกออกมาเมื่อปี 2531 ส่วนเรื่องคดีนั้นนายไพศาลให้การรับสารภาพเฉพาะเรื่องของบัตรข้าราชการปลอมเท่านั้น แต่เรื่องอื่นยังไม่ยอมรับสารภาพ

ขอขอบคุณ


ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์