จับเศรษฐินีจ้างฆ่าผัวเสี่ย-ขัดแย้งปมมรดกยังปากแข็งปฏิเสธ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ ( 2 ต.ค.) พล.ต.ต.ธยาน์ฤทธิ์ เอกเผ่าพันธุ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมพวก แถลงข่าวจับกุมนายธนกร อังสุมาลีย์กุล อายุ 45 ปี และนายมานิต อังสุมาลีย์กุล อายุ 42 ปี วึ่งเป็นพี่น้องกันและเป็น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ จ.339/ 55และจ.3340/55  ลงวันที่ 1 ต.ค.55 พร้อมของกลางปืนลูกซองแบบอัตโนมัติ เรมิงตัน โมเดล 1100 หมายเลขประจำปืน L064507  พร้อมกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด ปลอกกระสุน 1 ปลอก รถเก๋ง มาสด้า 3 สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน  เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากช่วงบ่ายวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุยิงนายสมชาย เพราะดีงาม อายุ 50 ปี เสี่ยเจ้าของบริษัทมหาชัยห้องเย็น และนายชาญวิทย์ โพธิ์นิล อายุ 40 ปี  พนักงานขับรถ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณ หน้าศูนย์จำหน่ายรถยนต์ฟอร์ด สมุทรสาคร ถนนพระราม 2 หมู่ 4 ต.นาดี แล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุตำรวจได้สืบสวนพยานหลักฐาน จนทราบเบาะแสแล้วขออนุมัติหมายศาลเข้าจับกุม 

สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพและให้การซัดทอดว่าได้รับการจ้างวานจากนางนงนุช เพราะดีงาม อายุ 41 ปี
 
ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาครที่ จ.341/2555 ลงวันที่ 1 ต.ค. 55 ภรรยาของนายสมชาย ในราคา 200,000 บาท  ให้สังหารนายสมชายเนื่องจากโกรธแค้นเรื่องแบ่งทรัพย์สมบัติและมรดก แต่นางนงนุชยังให้การปฏิเสธ โดยขณะที่ตำรวจกำลังแถลงข่าวอยู่นั้นนายธนกรและนายมานิตย์ ได้กลับคำให้การว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในคดี แต่ถูกตำรวจจับกุมและทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ไฟฟ้าช๊อตที่ลูกอัณฑะจนต้องยอมรับสารภาพ โดยนายธนกร พยายามจะถอดกางเกงให้สื่อมวลชนดู แต่ตำรวจได้เข้าห้ามไว้ พร้อมควบคุมตัวกลับไปคุมขังต่อที่โรงพักเพื่อดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ต.ธยาน์ฤทธิ์  เปิดเผยว่า แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธขณะแถลงผลการจับกุม
 
และผู้ต้องหาตามหมายจับอีกรายซึ่งเป็นผู้จ้างวานฆ่าจะให้การปฏิเสธ แต่ตำรวจก็มีหลักฐานแน่นหนา พร้อมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและมิใช่กรณีมีเหตุจำเป็นอันเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ โดยหลังจากนี้ก็จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้ศาลพิจารณาคดีความต่อไป ซึ่งผู้ต้องหาเองก็มีสิทธิ์ที่จะให้การในชั้นศาลตามที่กฎหมายระบุ 

ต่อมาตำรวจได้นำตัวนายธนกร และนายมานิตย์ อังสุมาลีย์กุล สองผู้ต้องหาไปทำแผน

ประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุท่ามกลางพนักงานของนายสมชาย เพราะดีงาม ที่มาเฝ้ารอดูเหตุการณ์ ซึ่งก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นไปได้อย่างค่อนข้างลำบาก เพราะผู้ที่มามุงดูนั้นพยายามที่จะเข้ามารุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหาตลอดเวลา  จากนั้นตำรวจจึงควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป.