ไหม้วอดวาย รง.ผลิตถุงมือ พินาศ 500 ล.

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 12 ก.พ. ร.ต.ท.สุวัฒน์ โพลี ร้อยเวร สภ.ต. ปากคลองรังสิต อ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานบริษัท เมดิโกลฟส์ จำกัด เลขที่ 33/3 ถนนติวานนท์ หมู่ 2 ต.บางกะดี จึงรายงานให้ พล.ต.ต. ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ชลาวุฒิ ไพรวรรณ์ ผกก.สภ.ต.ปากคลองรังสิต นำกำลังตำรวจ พร้อมด้วยนายเมฆินทร์ เมธาวิกูล ผวจ.ปทุมธานี ประสานหน่วยกู้ภัย อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หน่วยกู้ชีพนเรนทร และระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลต่างๆ กว่า 50 คัน ไประงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานผลิตและส่งออกถุงมือยาง ตั้งอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ มีเปลวเพลิงลุกโหมกระหน่ำ และกลุ่มควันดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากตัวอาคารฝั่งทิศตะวันตก ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของบรรดาคนงานหลายร้อยคน ต่างวิ่งเผ่นหนีอลหม่าน เจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำสกัด แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากภายในโรงงานเต็มไปด้วยถุงมือยางที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ไฟลุกลาม หลังจากใช้ความพยายามอยู่นานถึง 4 ชั่วโมง ในที่สุดก็สามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัด

พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า โรงงานดังกล่าวผลิตถุงมือยางส่งออกต่างประเทศ เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี และมีลมแรงทำให้ยากต่อการใช้น้ำสกัดเพลิง ช่วงเกิดเหตุมีพนักงานประมาณ 600 กว่าคนทำงานอยู่ ต่างก็วิ่งหนีเอาตัวรอด มีคนถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บ 5 คนนำส่ง รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส

ประกอบด้วย นางสุดใจ วงศ์โคคุ้ม อายุ 33 ปี ผู้ช่วยช่างไฟฟ้า ถูกไฟคลอกทั้งตัว นายบุญเกิด ใจหาญ ช่างควบคุมเครื่องต้มน้ำ นาย วีรวัฒน์ ทราบน้อย ช่างฝ่ายผลิต ทั้ง 3 คนอาการสาหัส นายสายันต์ เรืองเดช ช่างควบคุมเครื่องจักรกล และนายเอกลักษณ์ สกาวกุล ช่างไฟฟ้า อาการไม่สาหัส แพทย์ทำแผลแล้วอนุญาตให้กลับบ้านได้ หลังเพลิงสงบจะได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ วท.เขต 11 จ.ปทุมธานี มาตรวจสอบหาสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้

ด้านนายสมพงษ์ วีระคนางนนท์ ผจก.โรงงาน เปิดเผยว่า โรงงานดังกล่าวเป็นของนายเฮอรซ์ โยแรม ชาวอิสราเอล มีอาคารสำหรับเก็บสินค้าอยู่ติดกัน 3 หลัง ส่วนอีก 1 หลังเป็นโรงงานผลิต ก่อนเกิดเหตุขณะเดินตรวจดูความเรียบร้อยภายในโรงงาน ได้มีคนงานวิ่งมาบอกว่าไฟไหม้ที่ห้องผลิต ที่มีทั้งเครื่องจักรกลโรงงานหลายตัว รวมทั้งอุปกรณ์น้ำยาเคมีที่ใช้ในการผลิตถุงมือยางจำนวนมาก จึงวิ่งเข้าไปดูพร้อมสั่งคนงานให้ใช้ถังน้ำยาเคมีดับเพลิงฉีดสกัด แต่ไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วและมีกลุ่มควันหนาทึบ ไม่สามารถดับไว้ได้ จึงรีบพากันวิ่งหนีเอาตัวรอด คาดว่าค่าเสียหายในเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

สำหรับสาเหตุเพลิงไหม้ นายเมฆินทร์ เมธาวิกูล ผวจ.ปทุมธานี กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานจากผู้เกี่ยวข้อง ทราบว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากหม้อสตรีมแรงดันไอน้ำมีความร้อนสูงจนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้คนงานที่ควบคุมอยู่บริเวณดังกล่าวบาดเจ็บสาหัสถึง 3 คน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่วิทยาการจะเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง