เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 ก.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายใน เลิศสกุล อพาร์ทเม้นต์ เลขที่ 1526 หมู่ 4 ซ.เทพารักษ์ 10 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นตึกสูง 6 ชั้น บริเวณชั้น 3 ภายในห้อง 321 พบศพ น.ส.พัชรินทร์ เชื้อขำ อายุ 38 ปี อยู่ซ.ร่มเกล้า 20 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ขวางประตูห้องดังกล่าว บริเวณขมับขวามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .38 1 นัด ใกล้กันพบศพนายตี๋ แซ่ลี้ อายุ 44 ปี สัญชาติจีน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนคว่ำหน้ากอดกับศพของ น.ส.พัชรินทร์ โดยบริเวณมือข้างซ้ายของนายตี๋ ยังถืออาวุธปืนขนาด .38 อาวุธที่ใช้ก่อเหตุไว้ 1 กระบอก ใกล้กันยังพบปลอกกระสุนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก และหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่อีก 1 หัว และสมุดข้อความที่นายตี๋ได้เขียนระบายความในใจกับความรักของทั้งสองคน อีกข้อความ มีใจข้อความว่า “เธอให้พี่สาวผมมาพูดว่าไม่ต้องมายุ่งกับเธออีก ช่วยไม่ได้เธอต้องตายเป็นเพื่อนผม ผม เธอ ไอ้หมอนั้นต้องตายด้วยกัน”
สอบสวนทราบว่าผู้ตายทั้งสองเคยแต่งงานกันและเลิกรากันมากว่า 8 ปี โดย น.ส.พัชรินทร์ มีอาชีพขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ส่วนนายตี๋ มีอาชีพขายโทรศัพท์อยู่ในตลาดธรรมสาโรจน์แห่งเดียวกัน โดยฝ่ายหญิงได้ขอแยกทางฝ่ายชายมาได้ 8 ปี เนื่องจากทนพฤติกรรมหึงหวงของฝ่ายชายไม่ไหว ส่วนฝ่ายชายยังคงตามตื้อมาโดยตลอด แต่ฝ่ายหญิงไม่เล่นด้วยได้ตอบปฏิเสธมาตลอด ก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 เดือนเศษ ฝ่ายชายได้เข้ามาเปิดห้องเช่าห้องที่ 606 ชั้น 6 ในอพาร์ทเม้นต์เดียวกัน เพื่อติดตามพฤติกรรมฝ่ายหญิง โดยฝ่ายหญิงไม่เคยทราบมาก่อนว่าฝ่ายชายได้เข้ามาอาศัยอยู่ กระทั่งฝ่ายชายสืบทราบว่าฝ่ายหญิงได้มีหนุ่มใหม่มาติดพัน จึงได้โกรธแค้น ไปหาซื้ออาวุธปืนขนาด .38 ในราคา 35,000 บาทมาเก็บไว้ กระทั่งวันเกิดเหตุเวลา 20.00 น.วันที่ 29 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งมีคนได้ยินเสียง ฝ่ายชายได้พกอาวุธปืนไปเคาะห้องฝ่ายหญิง เพื่อเจราจาพูดคุยในห้องฝ่ายหญิง แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ฝ่ายชายได้ใช้อาวุธปืนออกมาจ่อยิงศีรษะฝ่ายหญิงเสียชีวิต ก่อนที่ฝ่ายชายจะเอาศพฝ่ายหญิงมากอดไว้และใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันหันมาจ่อยิงตัวเองตาม เพื่อปิดตำนานรักหึงหวงดังกล่าว
ด้านน.ส.ศรัณย์พร มาฮาดูจันท์ อายุ 22 ปี กล่าวว่า ตนเป็นลูกจ้างขายเสื้อผ้า ของ น.ส.พัชรินทร์ ผู้ตาย ซึ่งพักอยู่อพาร์ทเม้นต์เดียวกัน ก่อนมาพบศพ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาแม่บ้านทำความสะอาดได้มาบอกตนว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน และได้ยินเสียงคล้ายอาวุธปืนดังออกมาจากห้อง 321 ซึ่งเป็นห้องของ น.ส.พัชรินทร์ พักอยู่ หลังทราบเหตุ ซึ่งตนสังหรณ์ว่าจะเกิดเหตุร้ายจึงได้รีบวิ่งขึ้นไปดูเนื่องจาก น.ส.พัชรินทร์เคยเล่าให้ตนฟังว่า นายตี๋ซึ่งเป็นอดีตสามีชอบตามมาราวีขอคืนดี และเคยข่มขู่ น.สพัชรินทร์ ว่าถ้าไม่ไม่ยอมคืนดีจะเอาปืนมายิงให้ตาย พอมาถึงหน้าห้องเกิดเหตุ ตนเห็นคราบเลือดไหลนองออกมาจากช่องประตู จึงได้เคาะประตูเรียกแต่ก็ไม่มีใครเปิด ตนจึงขอกุนแจสำรองมาเปิดดู จึงทราบว่าทั้งคู่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
เบื้องตนเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายตี๋น่าจะเกิดความแค้นที่ น.ส.พัชรินทร์ มีชายหนุ่มมาติดพัน และไม่ยอมคืนดี จึงได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาจ่อยิง น.ส.พัชรินทร์ ก่อนยิงตัวตายตามเพื่อหนีความผิด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้นำศพทั้งสองไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป